by admin | บทความบ้านอุ่นรัก
วันนี้ ขอแชร์บทความของทีมครูกระตุ้นพัฒนาการของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรักธนบุรี” ที่ดูจะเหมาะกับสถานการณ์ในตอนนี้มาลงเป็นแนวทางแก่พ่อแม่ผู้ปกครองค่ะ
ในสถานการณ์นี้ที่การแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ยังไม่มีทีท่าคลี่คลาย “บ้านอุ่นรัก” อยากฝากผู้ปกครองทุกบ้านว่า (1) ท่านอย่าทอดทิ้งเวลาของเด็ก ๆ ให้เสียเปล่า แม้ทำได้เล็กน้อยก็ควรทำ เพื่อสิ่งที่ท่านเพียรสร้างมาจะได้ไม่ถดถอยไป และ (2) ยามนี้ เด็ก ๆ ขาดการฝึกและกระตุ้นพัฒนาการกับทีมกระตุ้นพัฒนาการมืออาชีพอย่างต่อเนื่องมานานกว่าหนึ่งปี เด็ก ๆ จึงไม่มีที่พึ่งอื่น นอกจากท่าน และจะออกไปฝึกที่ไหนก็ยากลำบาก เพราะมีความเสี่ยง
หลายท่านกังวลเรื่องการลงมือช่วยกระตุ้นพัฒนาการให้กับลูกหลานที่บ้าน กังวลว่าตัวเองจะทำได้หรือไม่ จะทำได้ดีรึเปล่า “บ้านอุ่นรัก” อยากฝากว่า “ท่านไม่ต้องกังวล ลงมือทำเลย เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ท่านจะได้เรียนรู้วิธีอยู่กับลูก วิธีช่วยลูก ทำไปเรื่อย ๆ เราจะค่อย ๆ เก่งขึ้น จะเกิดประสบการณ์เองค่ะ”
หลายท่านบอกว่าเด็ก ๆ ไม่ยอมเชื่อฟัง ไม่ยอมทำ …ถ้าเป็นแบบนั้น เราก็ยิ่งต้องเริ่มทำ และเพิ่มการใช้เวลาทำกิจกรรมอยู่กับลูกให้มากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปเปรียบเสมือนเราได้ทำแบบฝึกหัดบ่อย ๆ เราจะเก่งขึ้นเองค่ะ
เริ่มจากอ่านแนวทางนี้ ทำความเข้าใจ และลงมือทำนะคะ
- เลือกกิจกรรมที่พอทำได้
- นำมาเขียนแผนแต่ละวันแต่ละอาทิตย์จะทำอะไรบ้าง
- หมั่นทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน อาจเริ่มจากวันละ 10-15 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาไป
- ประเมินตนเองและลูกอยู่เสมอ หลังจากทำอย่างสม่ำเสมอสักระยะ เวลาที่อยู่ร่วมกันควรจะค่อย ๆ ง่ายขึ้น และมีความสุขขึ้น ลูกฟังเรามากขึ้น
- หากไม่ใช่ ค่อย ๆ กลับไปปรับวิธีการสอน แผนการสอน และเทคนิคการสอน จนกว่าจะเจอทางที่รู้สึกว่าใช่ค่ะ
ทีมกระตุ้นพัฒนาการเด็กของ “บ้านอุ่นรักธนบุรี” และ “บ้านอุ่นรักสวนสยาม” ขอส่งกำลังใจและความคิดถึง ๆ เด็ก ๆ ตลอดจนพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน แม้เราอยู่ห่างกันในยามนี้ แต่ก็จะช่วยกันหาแนวทางเพื่อกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก ๆ ไปด้วยกันค่ะ
เครดิตภาพ: freepik.com | prostooleh
by admin | บทความบ้านอุ่นรัก
ทีมครูกระตุ้นพัฒนาการเด็กของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” คำนึงถึงอาการหลักของเด็กออทิสติก คือ ความหมกมุ่นและชอบอยู่ในโลกของตนเอง มาเป็นหลักในการวาง “3 แนวทางกระตุ้นพัฒนาการ” อันนำไปสู่การบำบัดรักษา คือ
- การมีปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างนักเรียนและทีมครู เพื่อให้เด็กสัมผัสรักผ่านสัมพันธภาพดี ๆ ความสนุก การเล่น พร้อม ๆ ไปกับการแทรกวินัยตามจำเป็นตามวัยเพื่อนำทางและต่อยอดทางพัฒนาการให้เด็กสามารถเจริญเติบโตและยืนหยัดอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความหมาย
- การแทรกแซงและจัดสภาพการดำรงชีวิตประจำวันให้เด็กได้รับการกระตุ้นพัฒนาการที่ครอบคลุมแบบบูรณาการทุกด้าน
- การปรับแต่งพฤติกรรมที่ขัดขวางการดำรงชีวิตของเด็ก เช่น พฤติกรรมหงุดหงิด ยึดติดรูปแบบ แยกตัว และหมกมุ่นสนใจสิ่งของหรือกิจกรรมเฉพาะอย่างจนขาดความสนใจในเรื่องอื่น ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ “บ้านอุ่นรัก” ยังให้ความสำคัญกับ “การกระตุ้นพัฒนาการระยะเริ่มแรก (Early Intervention)” เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการและเตรียมความพร้อมให้เด็กวัย 2-5 ขวบ (วัยก่อนเข้าเรียนร่วมในโรงเรียนอนุบาล) โดย
- กระตุ้นพัฒนาการระยะเริ่มแรกมีเป้าหมายในการแก้ไขอาการและธรรมชาติของเด็กออทิสติกที่ยังขัดขวางพัฒนาการ เช่น
- เพิ่มความใส่ใจต่อบุคคลและสร้างเสริมทักษะการสานต่อปฏิสัมพันธ์แบบสองทาง
- กระตุ้นการเลียนแบบให้มีมากขึ้น
- เพิ่มความสนใจต่อสิ่งเร้ารอบตัวอย่างมีความหมาย
- เพิ่มทักษะทางภาษา ซึ่งหมายรวมถึงการขยายศัพท์ การฟังเข้าใจ และกระตุ้นการพูดเพื่อการสื่อสาร
- เพิ่มช่วงการคงสมาธิ
- ปรับความสมดุลการเคลื่อนไหวและระบบการรับสัมผัส
- ปรับพฤติกรรมที่ขัดขวางการดำรงชีวิต
- เตรียมความพร้อมก่อนเข้าโรงเรียน (School Readiness) โดย
- สร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ เกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ด้วยตนเอง
- เพิ่มระดับการตอบสนองและมีส่วนร่วมกับกิจกรรมตามตารางกิจวัตรประจำวันอย่างมีความหมายมากขึ้น
- เตรียมการดำรงชีวิต ประกอบด้วยการควบคุมตนเองในด้านพฤติกรรม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ขัดขวางการดำรงชีวิต และการอยู่ร่วมกับบุคคลรอบข้าง
- เพิ่มทักษะพื้นฐานในการช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวัน
- เตรียมความพร้อมด้านทักษะการเรียนรู้และพื้นฐานวิชาการ
- ประเมินความพร้อมของเด็กก่อนเข้าเรียนร่วมในโรงเรียน
ในการทำงานของทีมครูกระตุ้นพัฒนาการเด็กของ “บ้านอุ่นรัก” เราเน้นการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับเด็ก ๆ ตลอดจนการร่วมใจกันทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งบ้าน ทีมบำบัด และโรงเรียนของเด็ก เพื่อสนับสนุนให้เด็กที่พร้อมเข้าเรียนร่วมสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตในโรงเรียนและได้นำศักยภาพของตนเองมาใช้ในการเรียนรู้ได้อย่างเต็มความสามารถ จนถึงระดับที่เกิดการเรียนร่วมอย่างมีความหมายต่อไป
อันที่จริงแล้ว แนวทางของเราทำได้ไม่ยาก และเราสนับสนุนให้คนที่บ้านทำแบบเดียวกันนี้คู่ขนานไปกับเรา ทั้งนี้เพราะ เมื่อทีมกระตุ้นพัฒนาการและคนที่บ้านร่วมใจกันทำตามแนวทางข้างต้น เด็กจะได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้นจากสิ่งที่เราร่วมใจกันทำ
สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการทราบข้อมูลเรื่องการบริการของเราหรือจะส่งลูกหลานวัย 2-5 ขวบที่มีอาการออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้ากว่าวัย มากระตุ้นพัฒนาการ ปรับแต่งพฤติกรรม และเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนร่วมในโรงเรียนอนุบาล ท่านสามารถติดต่อเราได้หลายช่องทางเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
เครดิตภาพ: Unsplash | @bakutroo | SlidesCarnival
by admin | บทความบ้านอุ่นรัก
“การออกแบบการสอน” ของทีมครูกระตุ้นพัฒนาการเด็ก ที่ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” จะมาในรูปของกิจกรรมสนุก ๆ ที่ทีมครูวางแผนการสอนมาเป็นอย่างดี เพื่อช่วยสนับสนุนให้เด็กเข้าใจ และสนุกที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่
การช่วยให้เด็กที่ขาดสมาธิ เด็กที่เรียนรู้ได้ล่าช้า หรือเด็กที่มีทักษะทางภาษายังไม่สมวัย ครูผู้สอนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจธรรมชาติในการเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน และนำองค์ความรู้เรื่องการออกแบบการสอน มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรม
สำหรับทีมครูกระตุ้นพัฒนาการเด็กของ “บ้านอุ่นรัก” เรานำหลักการจากหลายแนวคิดทฤษฎีมาประยุกต์และปรับใช้เป็นวิธีการสอน โดยเน้นการออกแบบสื่อและแบบฝึกหัดที่เหมาะสมกับเด็กเป็นรายบุคคล และต้องเหมาะกับความสามารถในการเรียนรู้ของเด็กทั้ง 3 ระดับพร้อม ๆ กันไปด้วย คือ (1) เด็กที่เรียนรู้เร็ว (2) เด็กที่เรียนรู้ระดับปานกลาง และ (3) เด็กที่เรียนรู้ช้า
ที่ “บ้านอุ่นรัก” เรามีวิธีการสอนเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กที่เรียนรู้ได้ล่าช้า และขาดสมาธิ ดังนี้
- เน้นการเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสหลายมิติ หรือเรียนรู้ผ่านการลงมือทำกิจกรรม
- นำกิจกรรมเคลื่อนไหวมาช่วยเพิ่มความสนใจในการเรียนรู้
- ใช้หลักการย่อยงาน หรือ Task Analysis โดยนำเนื้อหาวิชาที่ยาก ซับซ้อน มาแปลงสภาพให้เด็กเข้าใจได้โดยง่าย
- ใช้ภาษาสั้น ๆ ตรงความหมาย เป็นรูปธรรมชัดเจน
- เพิ่มสื่อที่เป็นรูปธรรมให้เด็กเรียนรู้ผ่านการมองเห็น หรือ Visual Learning เพื่อช่วยให้เด็กเข้าใจเป็นรูปธรรม
- ในกิจกรรมที่ยากหรือซับซ้อน เราจะเริ่มด้วยกิจกรรมที่คาดว่าเด็กจะทำได้เอง 80 %
ทีมครูกระตุ้นพัฒนาการเด็กของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” ออกแบบการสอนอย่างไร ลองชมตัวอย่างกันสักหน่อยดีไหมคะ?
- ออกแบบอย่างเป็นรูปธรรม
- จัดเป็นกิจกรรมสนุก ๆ ให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ผ่านการมองเห็น (Visual Learning) เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้ชัดเจนขึ้น
- ใช้สื่อหลายรูปแบบ เช่น ภาพ ตัวเลข ตัวอักษร สี สัญลักษณ์ บัตรคำ โมเดล การ์ดภาพ การวาดภาพประกอบ หรือเขียนคำ เพื่อช่วยให้เด็ก ๆ สามารถจดจำหรือเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นเมื่อต้องเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นนามธรรม เรียนรู้เชิงแนวความคิด (Concept) การเรียนรู้เชิงมิติสัมพันธ์ หรือการจัดแยกประเภท
ทีมครูของ “บ้านอุ่นรัก” มั่นใจในการออกแบบการสอนเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กเป็นรายบุคคล นอกจากนี้ เรายังมั่นใจด้วยว่าเรารับมือเด็กได้ทุกรูปแบบ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองที่ส่งลูกหลานมาเรียนรู้ กระตุ้นพัฒนาการ หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกับเรา สามารถคลายความวิตกกังวลได้ค่ะ เราสัญญาจะทำเต็มที่ ทำอย่างถูกหลักการ และทำอย่างสุดความสามารถทุกวันเพื่อลูกหลานของทุกท่านและลูกศิษย์ของเราค่ะ
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองของลูกออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้ากว่าวัย หากสนใจส่งลูกหลานมาเรียนที่ “บ้านอุ่นรัก” หรือจะสั่งซื้อสื่อการเรียนการสอนเพื่อไปสอนเด็ก ๆ ที่บ้าน หรือต้องการลงทะเบียนเรียนคอร์สออนไลน์ที่ “บ้านอุ่นรัก” จัดทำขึ้นและเหมาะกับพ่อแม่ผู้ปกครองและครู หรือต้องการให้ทีมครูของเราเป็นที่ปรึกษาในการสร้างทีมครอบครัวบำบัด ท่านสามารถติดต่อทีมกระตุ้นพัฒนาการของ “บ้านอุ่นรักสวนสยาม” และ “บ้านอุ่นรักธนบุรี” ผ่านไลน์ได้ค่ะ
เครดิตภาพ: freepik.com | vectors | photographeeasia
by admin | บทความบ้านอุ่นรัก
เหตุผลที่ลูกอาการไม่ดีขึ้นดังที่คิดเกิดจากข้อจำกัด 2 ประการ
- เราไม่เข้าใจว่ากลุ่มอาการออทิซึมเป็นกลุ่มอาการพัฒนาการล่าช้าแบบแผ่ขยาย ดังนั้น หากเรามุ่งลงน้ำหนักการกระตุ้นพัฒนาการไปเน้นในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่เรากังวลเป็นพิเศษ โดยไม่ได้แก้ไขพัฒนาการด้านอื่น ๆ ไปพร้อมกัน อาจเป็นการแก้ไขที่ไม่ตรงจุดหรือไม่ครอบคลุมมากพอที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้าของพัฒนาการในภาพรวม ดังนั้น การแก้ไข คือ เราจำเป็นต้องแก้ไขพัฒนาการแบบบูรณาการพร้อมกันไปในทุกด้าน เพราะปัญหาพัฒนาการบางเรื่องจะส่งผลถึงพัฒนาการด้านอื่น ๆด้วย ทั้งในแง่ที่จะทำให้อาการแย่ลงหรือดึงให้พัฒนาการทุกด้านก้าวหน้าในทางดีขึ้น
- ประเด็นที่พบบ่อย คือ หากที่บ้านไม่ได้นำแนวทางที่ทีมบำบัดจัดการกระตุ้นพัฒนาการมาประยุกต์ให้เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน จึงไม่เกิดความซ้ำ หรือลูกไม่เกิดประสบการณ์ตรงมากพอ ในภาพรวมลูกมักจะไม่ดีขึ้น หรือพัฒนาการก้าวหน้าช้ากว่าที่ควรหรือลูกอาจจะดีขึ้นเฉพาะกับครูผู้ที่ได้คลุกคลีลงมือทำจริงจังกับลูกเท่านั้น ดังนั้น การแก้ไข คือ เราในฐานะพ่อแม่ผู้ปกครองจำเป็นต้องเรียนรู้แนวทางที่ทีมบำบัดจัดการกระตุ้นพัฒนาการและนำมาประยุกต์ให้เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน นำมาสร้างบรรยากาศในบ้านให้เกิดการกระตุ้นพัฒนาการอย่างสม่ำเสมอและมากพอที่ลูกจะเกิดประสบการณ์และการเรียนรู้ใหม่ ๆ
เครดิตภาพ: freepik.com | pch-vector
by admin | บทความบ้านอุ่นรัก
ลูกออทิสติก สมาธิสั้น จำนวนหนึ่งมีระบบการรับรู้ทางสายตาไม่สมดุล ลูกจึงแสดงพฤติกรรมที่พอจะมองเห็นได้หลายรูปแบบ เช่น
- หมกมุ่นสนใจเป็นพิเศษกับการรับรู้ทางสายตา จึงชอบเพ่งมองภาพซ้ำ ๆ มองตัวอักษร สี สัญลักษณ์ ยี่ห้อสินค้า ธงชาติ ชอบมองสิ่งที่มีพื้นผิวมันวาว สิ่งที่เคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นพัดลม เข็มนาฬิกา หรือมองแนวกระเบื้องที่พื้นหรือฝาผนัง มองตามเสาไฟฟ้า มองป้ายโฆษณาขณะนั่งรถ
- แต่ลูกบางคนอาจมีการหลบเลี่ยงการมองบางประเภท เช่น ไวต่อแสง ไม่ชอบเมื่อมีคนถ่ายภาพแล้วมีแสงเฟรช ไม่ชอบไฟกระพริบ ไม่ชอบแสงจ้า
- หรือลูกบางคนมักจะมองอะไรแบบละสายตาโดยง่าย มองแบบไม่จดจ่อ มองไม่ต่อเนื่อง เหม่อมองแบบไม่โฟกัสสายตา สอดส่ายสายตาไปมา หรือตาลอยแบบมองทะลุผ่าน
จากปัญหาระบบการรับรู้ทางสายตาไม่สมดุล ทีมกระตุ้นพัฒนาการเด็กออทิสติกและสมาธิสั้นจึงมักจะจัดกิจกรรมให้ลูกศิษย์ได้เล่น Flashlight เล่นฉายไฟ เล่นไฟกระพริบ ที่เด็ก ๆ ได้มองตามแสงไฟ เพื่อ
- กระตุ้นการรับรู้ทางสายตา (Visual Perception)
- การมองตามสิ่งเคลื่อนไหว (Eye Tracking) และการกรอกตาตามวัตถุที่เคลื่อนที่
- การฝึกคงสายตาจดจ่ออย่างต่อเนื่อง เพิ่มการคงสมาธิ
- ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ เวลาที่ลูกหงุดหงิด
ตัวอย่างอุปกรณ์การเล่นที่นำมาประยุกต์ได้ เช่น ไฟฉาย ลูกบอลคริสตัล (ลูกตุ้มกระจก) ไฟเธค ไฟกระพริบ
ไฟฉาย
แบบที่ 1: ปิดไฟในห้อง ปิดม่านให้ห้องมืด แล้วเปิดไฟฉาย ใช้ไฟฉายส่องเคลื่อนที่ไปตามจุดต่าง ๆ ช้า ๆ ให้เด็กมองตาม การเคลื่อนที่ของแสงในรูปแบบอิสระ
แบบที่ 2: ฉายไฟแบบระนาบที่ต่อเนื่องเพื่อฝึกมองแบบคงสายตา เช่น ฉายไฟย้ายตำแหน่งต่อกันเป็นเส้นทางที่ต่อเนื่อง อาจนับในใจ 1 ถึง 20 จุด โดยเคลื่อนที่ไฟฉายช้า ๆ ต่อเนื่องเป็นแนว เช่น ทางยาว ส่องไฟจากบนลงล่างแบบแนวตั้ง ส่องแนวนอน แนวเฉียงต่อกัน ส่องเป็นแนวรูปสี่เหลี่ยม
แบบที่ 3: ส่องไฟและสอนคำศัพท์ เช่น ติดภาพคำศัพท์ที่ต้องการสอน จะติดแบบอิสระ หรือจะติดเป็นแนวระนาบ หรือสลับรูปแบบก็ได้ จากนั้นส่องไฟไปยังภาพคำศัพท์เพื่อกระตุ้นการพูด หรือหากทำจนลูกจำคำศัพท์ได้แล้ว อาจรอให้ลูกพูดก่อนจึงส่องภาพถัดไป
แบบที่ 4: ปิดไฟมืด แล้วฉายไฟฉายบนโต๊ะ หรือบนพื้นให้ลูกไล่ตบแสง ในรูปแบบส่องไฟอิสระ หรือส่องตามแนวระนาบ และอาจสลับบทบาทให้ลูกเป็นคนส่องแสงไฟ แล้วพ่อแม่ตามตบแสงเพื่อเล่นสนุกร่วมกัน
ลูกบอลคริสตัล (ลูกตุ้มกระจก)
วิธีเล่น: ปิดไฟให้มืด แล้วส่องไฟฉายแบบเคลื่อนที่ให้เกิดแสงสะท้อนในมุมต่าง ๆ เริ่มจากส่องแบบเคลื่อนที่แนวระนาบช้า ๆ ให้ลูกมองต่อเนื่อง จากนั้น ส่ายไฟฉายแบบเร็ว ๆ ย้ายจุดไปมา ให้เกิดแสงกระทบ ให้ลูกมองตาม
ไฟเธค ไฟกระพริบ (ขนาดเล็ก)
แบบที่ 1: ปิดไฟมืดแล้วเปิดแสงให้ลูกวิ่งเล่น หรือเปิดเพลงจังหวะเร้าใจสนุก ๆ แล้วชวนลูกเต้นรำ เคลื่อนไหวร่างกายด้วยกัน
แบบที่ 2: นำไฟกระพริบใส่ในเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่พอควร ให้ลูกมุดไปนั่งเล่น
แบบที่ 3: ในสถานการณ์ที่ลูกหงุดหงิด ลองเปิดไฟนี้ให้ลูกได้ใช้เวลาสงบใจกับตนเอง ในลูกรายที่ไม่กลัวแสง หลังจากอยู่ในบรรยากาศของแสงไฟ ลูกจะเริ่มผ่อนคลายจากความหงุดหงิดภายใน เพราะความสนใจถูกเบี่ยงเบนมายังสิ่งเร้าภายนอกคือแสงไฟ
คำเตือน
- กรณีที่พบว่าลูกเลี่ยงหรือหวาดกลัว กลัวแสงไฟ โดยเฉพาะการใช้ไฟกระพริบหรือแสงจ้า ควรปรับระดับแสงให้สีนวล และเริ่มจากเวลาสั้น ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายเวลาให้นานขึ้น
- ในทุกกิจกรรมเราจะไม่ปล่อยให้ลูกหมกมุ่นกับกิจกรรมใดนาน ๆ หรือซ้ำ ๆ ดังนั้นในแต่ละกิจกรรมควรใช้เวลาไม่เกิน 10-20 นาทีต่อรอบ เลือกทำในบางวันสลับกับการทำกิจกรรมอื่น หรือขึ้นอยู่กับปฎิกริยาตอบสนองของลูกว่าสนุก สนใจ และมีส่วนร่วมหรือไม่
เครดิตภาพ: https://www.freepik.com/rocketpixel