ลูกไม่ยอมเลียนแบบ แถมเลียนแบบไม่เป๊ะ ถอดใจดีกว่าไหมเรา? | บ้านอุ่นรัก

ในการสอนลูกเลียนแบบ เช่น เลียนแบบการขยับปาก การออกเสียงพูด การทำท่าทาง หรือการลงมือทำตามสิ่งต่าง ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างทักษะด้านการช่วยเหลือหรือการดูแลตนเอง เราจะพบว่าในระยะแรก ๆ หรือแม้แต่ผ่านไปสักพักใหญ่แล้ว ลูกก็ยังอาจไม่ให้ความร่วมมือ หรือแม้ลูกร่วมมือ ลูกก็ยังเลียนแบบผิด ๆ ถูก ๆ จนเราเกิดความท้อใจ

หากเราตกอยู่ในภาวะนี้ ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” อยากให้กำลังใจว่าอย่าเพิ่งถอดใจ การถอดใจไม่ใช่คำตอบ เพราะสิ่งที่เราเห็นลูกทำหรือไม่ทำในวันนี้ยังไม่ใช่ตัวจริงของลูก หัวใจสำคัญคือเราต้องยึดมั่น ต้องให้เวลาลูกได้เรียนรู้ ให้โอกาสลูกได้ทำซ้ำได้ซักซ้อมทำตามบ่อย ๆ เราต้องยื้อแบบไม่ปล่อยผ่าน และที่สำคัญคือเราต้องไม่ตั้งเงื่อนไขที่ยากหรือสลับซับซ้อนมากเกินไปจนลูกเป็นฝ่ายถอดใจไปก่อนเสียเอง

เราจะวัดความสำเร็จเรื่องการสอนลูกเลียนแบบได้อย่างไร?

ทุกความสำเร็จมีลำดับขั้นตอน ขอให้สังเกตให้ดี เราจะพบความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าชื่นใจ

• ลูกมองเราเมื่อเราสาธิตหรือแสดงแบบให้ลูกดู

• ลูกสบตาเราในขณะเรียนรู้การเลียนแบบ

• ลูกสนใจฟังสิ่งที่เรากำลังสอน

• ลูกเลียนแบบเราได้อย่างสอดคล้องกับการนำของเรา

• ลูกเข้าใจเราว่าเราต้องการให้ลูกทำอะไร

• ลูกพยายามเลียนแบบ ส่วนจะทำได้เป๊ะหรือไม่เป๊ะนั้น เป็นรายละเอียดที่เราสามารถจัดเก็บให้เข้าที่ได้ในเวลาต่อ ๆ ไป

ในการเรียนรู้ของลูกที่มีอาการออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้ากว่าวัย ลูกจำเป็นต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ใช้เวลายาวนาน และต้องพากเพียรพยายามมากกว่าเด็กโดยทั่วไปอยู่มาก เราจึงควรใช้ความสม่ำเสมอ ใช้ระยะเวลา ใช้ความถี่ที่เพียงพอ และใช้ความเข้มแข็งในใจในการสอนจนกว่า “ลูกจะเข้าใจและตระหนักรู้ว่าตนเองทำเป็นและจำเป็นต้องทำบางอย่างสานต่อกลับมา”

แนวทางการเติมเต็มทักษะการเลียนแบบ

• หาจังหวะเข้าแทรกและกระตุ้นให้เหมาะสม เช่น ระหว่างที่เล่นสนุกกับลูก

• กระตุ้นให้ลูกเลียนแบบการกระทำที่กำลังเกิดตรงหน้า

• แทรกการวางเงื่อนไขอย่างเป็นธรรมชาติไม่ให้ลูกรู้ตัว

• กระตุ้นนำให้ลูกเลียนแบบง่าย ๆ เช่น ชี้สิ่งที่ต้องการ ทำท่าตาม หรือพูดตาม

• รอจนกว่าลูกจะพยายามทำ ลองทำ หรือแม้แต่การจับนำให้ลูกทำสำเร็จตามการนำ ก่อนที่จะให้ลูกได้รับสิ่งที่ลูกต้องการ

จากประสบการณ์การทำงานด้านนี้ของ “บ้านอุ่นรัก” ยาวนานต่อเนื่องเกิน 30 ปี ขอให้เชื่อเถอะว่าในความไม่ทำและความไม่เป๊ะของลูก ลูกของเราเขาพยายามอย่างหนักและสักวันลูกของเราจะทำได้ดีกว่าที่ทำอยู่ในวันนี้อย่างแน่นอน

“บ้านอุ่นรัก” ขอเป็นกำลังใจให้

#ทำแล้วทำอยู่และต้องทำต่อ❤️

ติดต่อ ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก”

บ้านอุ่นรักสวนสยาม โทร 086 775 9656

บ้านอุ่นรักธนบุรี ถนนพุทธมณฑลสายสอง โทร 087 502 5261

วันและเวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ | 09.00 น. – 15.00 น.

Photo Credit: Igor Omilaev | Unsplash

อาการของลูกจะดีขึ้นได้หรือไม่ | บ้านอุ่นรัก

ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” ขอเสนอแนะหนึ่งแนวทาง คือ “การใช้ความรู้คู่ความรัก” เพื่อหาคำตอบ

แนวทาง:

  • เราเปิดใจยอมรับว่าพัฒนาการของลูกน่าจะมีปัญหาและรีบพาลูกไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กหรือจิตแพทย์เด็ก ตลอดจนทีมบำบัดมืออาชีพด้วยความรวดเร็ว
  • เราศึกษาหาวิธีแทรกแซงและกระตุ้นพัฒนาการเด็กในระหว่างวัน ให้มีกิจกรรมช่วยจัดสภาพการใช้เวลาของลูกอย่างหลากหลายและครอบคลุมพัฒนาการทุกด้าน ทั้งนี้ เราต้องสลับกับการปล่อยให้ลูกได้มีอิสระบ้าง และต้องทำเช่นนี้ทุกวัน ๆ ละบ่อย ๆ ซึ่งเราต้องใจเย็นและยอมรับว่าการกระตุ้นพัฒนาการเด็กนั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากพอจนกว่าลูกจะเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้ในท้ายที่สุด
  • เราเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ ไม่ปล่อยผ่าน แต่มุ่งสู่การส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านให้กับลูก ๆ
  • เรามีทัศนคติถูกต้อง กล่าวคือ “เรามีศักยภาพมากพอ เราช่วยลูกได้” และ “ลูกมีศักยภาพพิเศษสุดซ่อนอยู่ภายใน ลูกของเราเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ได้”
  • เราศึกษาหาแนวทางการตอบสนองต่อพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกด้วยความเมตตาได้อย่างเหมาะสมและทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ

ติดต่อ: ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” เพื่อสอบถามบริการของเราเกี่ยวกับการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้าไม่สมวัย ได้ที่

บ้านอุ่นรักสวนสยาม โทร 086 775 9656

บ้านอุ่นรักธนบุรี ถนนพุทธมณฑลสายสอง โทร 087 502 5261

Credits: SlidesCarnival Template | Pexels and Pixabay Photos

เมื่อเราพบเด็กออทิสติกที่พลัดหลงจากพ่อแม่ เราควรทำอย่างไร?

เด็กออทิสติก ตลอดจนเด็กดาวน์ซินโดรม สมาธิสั้น และเด็กที่วิตกกังวล อาจเดินเตร็ดเตร่จนพลัดหลงด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น เด็กอยากเดินไปสถานที่อื่น ไปหยิบของที่อยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง อยากหลบออกจากสถานการณ์ที่ตนไม่ชอบ หรืออาจแค่สับสนจับทิศทางไม่ถูกจนเดินหลงทาง เป็นต้น

เมื่อเราพบเด็กออทิสติกพลัดหลง ขอให้เข้าใจว่าแม้พ่อแม่ผู้ดูแลเด็กจะอดหลับอดนอนหรือสอดส่องเฝ้าดูเด็กด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุดแล้ว แต่เผลอนิดเดียว เด็กก็อาจเดินออกจากบ้านหรือเดินพ้นสายตาไปจากการดูแลของพ่อแม่ผู้ดูแลจนพลัดหลงได้ ซึ่งประเด็นนี้มี นิตยสารด้านกุมารเวชศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่ข้อมูลจากการสำรวจพ่อแม่ผู้ดูแลเด็กออทิสติกว่าพ่อแม่ผู้ดูแลกลุ่มนี้ยอมสละเวลาของตนเอง ไม่ออกไปเที่ยว ไม่ออกไปทานอาหารนอกบ้าน และแม้แต่ไม่ได้หลับได้นอนเพื่อจะเฝ้าดู ระแวดระวัง อยากให้ลูกปลอดภัยและไม่พลัดหลง แต่ถึงกระนั้น ร้อยละ 49 ของพ่อแม่ผู้ดูแลก็ยังพบว่าลูก ๆ ออทิสติกของพวกเขาเคยเดินพลัดหลงไปจากพวกเขาอย่างน้อย 1 ครั้งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เราต้องตระหนักว่าสถานการณ์พลัดหลงอาจเกิดกับเด็กออทิสติกได้ ดังนั้น เมื่อเราพบเห็นเด็กออทิสติกที่พลัดหลงจากพ่อแม่ผู้ดูแลเด็ก เราสามารถช่วยกันส่งเด็กกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยด้วยการทำตาม 3 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ คือ

1. หยุดเพื่อให้ความช่วยเหลือ หยุดและถามเด็กว่าเด็กต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ (ไม่ว่าเด็กจะตอบหรือไม่ ขอให้เราทำตามข้อ 2 และ 3 ต่อไป เพราะเด็กออทิสติกบางคนไม่พูด ไม่สบตา และไม่สื่อสารบอกความต้องการ)

2. ค้นหาและขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่

3. อยู่ตรงนั้นกับเด็กจนกว่าเจ้าหน้าที่หรือตัวแทนของหน่วยงานที่เราติดต่อไปจะมาถึง

“บ้านอุ่นรัก” ได้สืบค้นเบอร์โทรของหน่วยงานที่พอจะช่วยเรารับเรื่องกรณีพบเห็นเด็กออทิสติกพลัดหลง ดังนี้

• สายด่วนกระทรวง พ.ม. (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) โทร 1300

• สถานีวิทยุ จ.ส. 100 โทร 1137

• สถานีวิทยุข่าวจราจรและความปลอดภัย สวพ. 91 โทร 1644

• ศูนย์บริหารจัดการคนหายและศพนิรนาม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร 1599

• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร 191

• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งตำรวจท่องเที่ยว โทร 1155

• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งตำรวจทางหลวง โทร 1193

• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งตำรวจจราจร โทร 1197

• สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ กองบังคับการตำรวจจราจร โทร 02 354 6324

• มูลนิธิออทิสติกไทย โทร 099 454 5395

• มูลนิธิสถาบันแสงสว่าง 02 381 5362

• ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา โทร 080 775 2673 และ 02 973 2236-7

เครดิตบทความ: Community Resources | connectingforkids.org

คลิกลิงก์เพื่ออ่านบทความต้นฉบับ

https://connectingforkids.org/Community

เครดิตภาพ: Jonathan Sanchez | Unsplash

นั่งอยู่กับที่ได้บางเวลา มันดีอย่างนี้นี่เอง | บ้านอุ่นรัก

นั่งอยู่กับที่ได้บางเวลา มันดีอย่างนี้นี่เอง | บ้านอุ่นรัก

ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” ขอแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองสอนลูกหลานเด็กเล็กเรื่อง “การนั่งอยู่กับที่” และควรสอนทักษะนี้เสียแต่เนิ่น ๆ เพราะการนั่งอยู่กับที่ได้บ้างในบางเวลาเป็นพัฒนาการสำคัญที่ส่งผลดีเมื่อเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กออทิสติก สมาธิสั้น ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ในอนาคตต่อไป

“บ้านอุ่นรัก” ขอยกสถานการณ์ตัวอย่างให้ท่านเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าเมื่อเด็กเล็กสามารถนั่งทานอาหารอยู่กับที่ได้  เด็กจะมีพฤติกรรมการทานอาหารที่ดีขึ้นได้อย่างไร

ประโยชน์ที่เด็กจะได้รับเมื่อเด็กสามารถ “นั่งอยู่กับที่ได้บ้างในบางเวลา”

  • เพิ่มช่วงเวลาแห่งความสนใจ เด็กที่สามารถนั่งอยู่กับที่จะให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้ดีขึ้น อีกทั้งจะสนใจสิ่งนั้น ๆ ได้ยาวนานขึ้น ดังนั้น เมื่อลูกออทิสติก สมาธิสั้น นั่งทานอาหารที่โต๊ะอาหารได้ ลูกจะมุ่งความสนใจของตนเองไปที่มื้ออาหาร อาหารตรงหน้า และจะทานอาหารได้ดีขึ้น เป็นต้น
  • เพิ่มการตระหนักรู้เหตุการณ์ตรงหน้า การที่ลูกตระหนักรู้ว่ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นตรงหน้า ลูกจะเรียนรู้สิ่งนั้นได้ดียิ่งขึ้น เช่น เมื่อลูกนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร ลูกจะตระหนักรู้ได้ดีขึ้นว่าแม่กำลังสอนให้รู้จักชื่อผลไม้ ให้มองรูปร่างของผลไม้ และให้ชิมรสชาติของผลไม้ เมื่อได้เรียนรู้บ่อย ๆ ลูกก็จะรู้จักผลไม้ต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทานผลไม้ (หรือแม้แต่อาหารอื่น ๆ) ได้หลากหลายขึ้น
  • เพิ่มความสามารถในการคาดเดาและการทำตามสิ่งที่กำลังเรียนรู้ ซึ่งจะต่อยอดเป็นความเข้าใจโครงสร้างของกิจวัตรประจำวันที่ตนต้องทำตามลำดับได้ดียิ่งขึ้น เช่น ลูกที่สามารถนั่งอยู่กับที่ได้ในเวลาทานอาหาร ลูกจะสนใจการทานอาหารมากขึ้น ตระหนักรู้ได้ดีขึ้นว่าตอนนี้แม่กำลังสาธิตวิธีการใช้ช้อนตักทานอาหารเพื่อทาน (แม่ต้องการให้ลูกใช้ช้อนทานอาหารได้ด้วยตนเองแทนการป้อน) ลูกก็จะเลียนแบบท่าทางการใช้ช้อนเพื่อตักอาหารเข้าปากได้ตามที่แม่สอน เมื่อฝึกบ่อยครั้งเข้า ลูกจะรู้โดยปริยายและคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้โดยปริยายว่าเวลานี้ใกล้จะถึงเวลาอาหารแล้ว ตนจึงควรไปนั่งประจำที่ ๆ โต๊ะอาหาร จากนั้นก็ทานอาหาร และต่อด้วยการทำกิจวัตรอื่น ๆ ตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยแม่เก็บโต๊ะอาหาร ล้างจาน แปรงฟัน และฟังนิทานก่อนนอน เป็นต้น ซึ่งการคาดเดาเหตุกาณ์ล่วงหน้าได้ด้วยตนเองนี้จะช่วยให้ลูกลดปัญหาเรื่องการทานอาหารเมื่อถึงเวลาอาหาร คลายความวิตกกังวลเรื่องกิจวัตรการทานอาหารแต่ละมื้อที่จะต้องทำ และลดการแสดงออกซึ่งพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ท้าทายที่ลูกเคยทำลงไปได้ด้วย เป็นต้น

การที่ลูกหลานเด็กเล็กตัวน้อย ๆ โดยเฉพาะลูกออทิสติก สมาธิสั้น สามารถนั่งอยู่กับที่ได้ด้วยตนเองในบางเวลาเป็นทักษะสำคัญที่ผู้ใหญ่ต้องลงมือสอนเด็กอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทีมครูของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” ก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญงานด้านการกระตุ้นพัฒนาการเด็ก เราจึงสามารถช่วยพ่อแม่ผู้ปกครองฝึกทักษะด้านนี้ให้กับลูกหลานของท่านได้ หากท่านสนใจส่งลูกหลานออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้าไม่สมวัย (เด็กวัย 2-5 ขวบ) มาเรียนรู้กับเรา ท่านสามารถติดต่อเราได้ในวันและเวลาทำการ

บ้านอุ่นรักสวนสยาม: โทร: 086 775 9656

บ้านอุ่นรักธนบุรี ถนนพุทธมณฑลสายสอง: โทร: 087 502 5261

วันและเวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ | 09.00 น. – 15.00 น.

เครดิตบทความ: 7 Ways to Teach Your Child to Sit at the Table | Lisa Cvetnich | theautismconnection.com

อ่านบทความเต็มจากต้นฉบับ กดลิงก์

7 Ways to Teach Your Child to Sit at the Table – The Autism Connection

เครดิต Template และภาพ: SlidesCarnival | Pexels and Pixabay

 

LEGO ของเล่นนี้ มีความหมาย

LEGO ของเล่นนี้ มีความหมาย

“…LEGO หรือที่เราเรียกกันทับศัพท์ว่าตัวต่อเลโก้นั้น จริง ๆ มาจากรากศัพท์คำว่า LEG GODT ในภาษาเดนิช แปลว่า Play Well หรือการเล่นยอดเยี่ยมนั่นเอง และช่างเป็นเรื่องบังเอิญด้วยที่ LEGO ในภาษาละตินนั้นยังมีความหมายว่าต่อเข้าด้วยกันอีกด้วย…(ที่มา: SME Thailand Online)”

ตัวต่อเลโก้เป็นของเล่นประจำบ้านของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” ทั้ง 2 แห่ง คือ “บ้านอุ่นรักสวนสยาม” และ “บ้านอุ่นรักธนบุรี” ซึ่งครูบ้านอุ่นรักจะใช้เลโก้ทั้งในการสอนเดี่ยว สอนกลุ่ม ตลอดจนการปล่อยเด็กเล่นอิสระเพราะเลโก้เป็นของเล่นที่เหมาะสมกับการสร้างเสริมพัฒนาการเด็ก เช่น

  • ฝึกจัดระเบียบความคิดและลำดับการทำงานในสถานการณ์ที่มีสิ่งเร้าจำนวนมาก เช่น ครูสาธิตให้เด็กดูว่าในการเล่นนี้ เด็กต้องแยกเลโก้ตามสีและต่อเลโก้ที่เป็นสีเดี่ยวกันเข้าด้วยกัน โดยในช่วงเริ่มต้น ครูจะคละเลโก้หลากสีรวมไว้ในถาดและต่อให้เด็กดูทีละสี เมื่อเด็กเข้าใจแนวคิด ครูจะแล้วปล่อยให้เด็กแต่ละคนลงมือทำเอง ซึ่งเด็กบางคนจะสับสนเพราะเลโก้หลากสีถือเป็นสิ่งเร้าที่มีจำนวนมาก (มีสิ่งเร้าเยอะ) เด็กจึงเริ่มต้นไม่ถูก ในขณะที่เด็กบางคนก็จะลงมือทำได้ ทั้งนี้ ครูจะสังเกตว่าเด็กแต่ละคนมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร เช่น เด็กบางคนเลือกหยิบเลโก้ทีละสีแล้วต่อจนเสร็จไปทีละสี ในขณะที่เด็กบางคนใช้วิธีแยกเลโก้แต่ละสีกองแยกไว้แล้วค่อยต่อ ส่วนเด็กคนที่สับสนมาก ครูจึงจะบอกวิธีทำอีกรอบ การสังดเกตของครูทำให้ครูรู้วิถีความคิดของเด็กแต่ละคนก่อนที่ครูจะนำทาง
  • เมื่อเด็กต่อเลโก้ตามที่ครูสั่งได้เองแล้ว ครูจะปล่อยให้เด็กต่อเลโก้ต่อไปอย่างอิสระ แต่ครูจะคอยสังเกตห่าง ๆ และเข้าแทรกเพื่อให้แนวทางเด็กลองแปลงสภาพเลโก้เป็นรูปแบบต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมจินตนาการเพิ่มเติม เช่น ต่อเป็นเครื่องบินหรือรถ เป็นต้น
  • เมื่อเด็กต่อเลโก้เป็นเครื่องบินหรือรถได้แล้ว ครูไม่ลืมที่จะกล่าวชม ก่อนชวนเด็กสนุกต่อด้วยการทำท่ายกเลโก้ชิ้นนั้นหรือยกตัวเด็กขึ้นบินบนอากาศ หรือเด็กที่ต่อเลโก้เป็นรถ ครูก็จะชวนเด็กทำท่าเข็นเลโก้รูปรถพร้อมทำเสียงประกอบ “บรื้น ๆ ๆ” อย่างสนุกสนาน

แม้เลโก้จะเป็นของเล่นที่ช่วยสร้างเสริมจินตนาการและพัฒนาการของเด็กได้ แต่การที่พ่อแม่ผู้ปกครองหรือผู้สอนหมั่นสังเกตและคอยเข้าแทรกเพื่อกระตุ้นพัฒนาการเด็กในจังหวะที่ถูกต้อง จะเป็นการต่อยอดการเล่นให้มีคุณค่ายอดเยี่ยมทั้งในด้านการกระตุ้นพัฒนาการและการสร้างสัมพันธภาพทางใจสมกับความหมายของ LEGO ได้อย่างแท้จริง

เครดิตข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเลโก้: SME Thailand Online

เครดิตภาพ: https://unsplash.com/photos/HpMihL323k0 (Unsplash | Glen Carrie)

ติดต่อศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก”

บ้านอุ่นรักสวนสยาม: โทร: 086 775 9656

บ้านอุ่นรักธนบุรี ถนนพุทธมณฑลสายสอง: โทร: 087 502 5261

วันและเวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ | 09.00 น. – 15.00 น.