“วันนี้ดีจัง” แนวความคิดสร้างความสุขที่พอดีตัว | บ้านอุ่นรัก

“วันนี้ดีจัง” แนวความคิดสร้างความสุขที่พอดีตัว | บ้านอุ่นรัก

ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของศูนย์กระตุ้นพัฒนาการ “บ้านอุ่นรัก” ได้ชมซีรีส์เกาหลี เรื่อง When The Whether is Fine ซึ่งตัวละครในเรื่องได้เล่าถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ชื่อว่า “นกสีฟ้า”

เรื่องมีอยู่ว่า “พี่น้องสองคนออกเดินไปยังดินแดนต่าง ๆ เพื่อตามหานกสีฟ้าแห่งความสุข พวกเขาตั้งใจจะจับนกสีฟ้ากลับไปบ้าน และในระหว่างการเดินทางก็ได้พบนกสีฟ้า แต่เมื่อตั้งใจจะเอานกสีฟ้าติดตัวกลับไป นกสีฟ้าก็กลายเป็นนกสีดำและหมดคุณค่าสำหรับเด็ก ๆ ไปในทันที แม้ในเวลาต่อมาพวกเขาได้พบนกสีฟ้าอีกเป็นล้าน ๆ ตัว แต่เมื่อต้องการครอบครอง นกสีฟ้ากลับกลายเป็นนกตาย สรุปว่าพวกเขาไม่สามารถนำนกสีฟ้าแห่งความสุขกลับมาบ้านได้”

เมื่ออ่านถึงตอนนี้ เราจะรู้สึกว่าเด็ก ๆ น่าสงสาร แต่อันที่จริง กลับไม่เป็นไรเลย เพราะในระหว่างการเดินทางจนกระทั่งกลับถึงบ้าน เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องการแสวงหาความสุขจนไขความลับของการแสวงหาความสุขได้ว่า “ความสุขไม่ได้เกิดขึ้นจากการเริ่มต้นแสวงหา และไม่ได้เกิดจากการแสวงหาที่สำเร็จ หากอยู่ที่การมีสติตั้งมั่น ตระหนักรู้ ซาบซึ้งกับความสุขในปัจจุบันตรงหน้าที่มีอยู่ในสรรพสิ่งรอบตัว”

เมื่อถึงตอนจบที่พวกเขากลับถึงบ้าน ก็พบว่านกสีฟ้าอยู่ในบ้าน แต่ในที่สุดนกสีฟ้าที่อยู่ที่บ้านก็บินหนีไปอีก แต่เด็กคนพี่กลับกล่าวอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “มันยังอยู่ในบ้าน เดี๋ยวเราก็หาเจอ” และยังกล่าวย้ำกับน้องสาวอีกครั้งในตอนท้ายว่า “ตอนนี้พี่รู้แล้วว่านกสีฟ้าแห่งความสุขอยู่ที่ไหน”

จากเรื่องราว “นกสีฟ้า The Childrens’ Blue Bird” ที่ “บ้านอุ่นรัก” ถ่ายทอดโดยสรุปมาจากการชมซีรี่ส์บน Viu Thailand และจากการอ่านบทความเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้จาก blockdit.com เราอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองของลูก ๆ ที่มีความต้องการเป็นพิเศษรู้ว่า “นกสีฟ้าแห่งความสุข” อยู่ใกล้ตัว บินอยู่รอบ ๆ ตัวท่าน แต่ท่านอาจยังมองไม่เห็น และหากยังมองไม่เห็นหรือยังหาไม่เจอ อย่างน้อย เราอยากให้ท่านลองยิ้มกว้าง ๆ จากใจ ยิ้มให้ตัวเองและคนรอบข้าง เพื่อจุดประกายความสุขในใจ จนตระหนักได้ว่า “วันนี้ดีจัง” จากนั้น ท่านก็จะพบกับความสุขที่พอดีตัวจากแนวความคิดที่ว่า “วันนี้ดีจัง” ได้ค่ะ

วันนี้ดีจัง…ที่ลูกยังมีเราและทุกคนที่บ้านอยู่ใกล้ ๆ คอยคุ้มครองป้องกันให้ปลอดภัย

วันนี้ดีจัง…ที่เรายังมีโอกาสได้กอดลูกแน่น ๆ ได้หอมแก้มนุ่มๆ ได้ใช้ความรักที่สุดจากใจทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่จะทำได้กับลูก

วันนี้ดีจัง…ที่เราได้ตั้งต้นเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับลูกและอาการของลูก ค่อย ๆ เรียนรู้ ค่อยๆ เดิน ค่อย ๆ ทำ ไม่รน ไม่รีบ ไม่กดดัน ทุกอย่างแก้ไขได้

และวันนี้ดีจัง…ที่เราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง และเราจะทำเช่นนี้ในทุก ๆ วันเพื่อลูกได้สัมผัสรักที่อบอุ่น ให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ทุก ๆ วัน ได้รับแบบฝึกหัดและประสบการณ์ใหม่ ๆ พร้อมกับการที่เราจะได้ซึมซับความสุขของการเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองของลูก เราได้ใช้ชีวิตของตัวเองและอนุญาตให้ตัวเองมีความสุข ยอมให้ตัวเองได้ทำสิ่งเล็ก ๆ ที่แม้จะไร้ความหมายแต่ก็มีความสุข ได้ใช้สามารถพิเศษบางอย่างลองทำในสิ่งที่อยากทำ

ดังนั้น แม้จะทุกข์แค่ไหน แต่เพราะ “วันนี้ดีจัง” เราก็จะมีความสุขเข้ามาเติมเติม มีกำลังใจที่จะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ ที่เกิดขึ้นได้ตลอดไปในระหว่างที่รอลุ้นให้ลูกเติบโต

“บ้านอุ่นรัก” หวังว่า “วันนี้ดีจัง” จะเป็นแนวคิดสร้างความสุขที่พอดีตัวให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน

เรามีทั้งวันนี้ที่ดีและยังมีเวลาพอ มีเวลาอีกยาวนาน พลังรักของเราบวกกับเวลาที่มากพอจะค่อย ๆ ผลักดันให้ลูกเติบโตได้อย่างแน่นอนค่ะ

เครดิตข้อมูลและภาพประกอบบทความ: หนังสือ เรื่อง นกสีฟ้า หรือ The Childrens’ Blue Bird (Maurice Maeterlinck) | ช่อง Viu Thailand | blockdit.com | วรรณกรรมเด็ก | Freepik.com by pikisuperstar

ความรู้สึกและประสบการณ์ของพ่อแม่ผู้ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นพัฒนาการเพิ่มเติมให้ลูกที่บ้าน | บ้านอุ่นรัก

ความรู้สึกและประสบการณ์ของพ่อแม่ผู้ประสบความสำเร็จในการกระตุ้นพัฒนาการเพิ่มเติมให้ลูกที่บ้าน | บ้านอุ่นรัก

หลายวันก่อนครูนิ่มได้คุยเคสกับครอบครัว ๆ หนึ่งของลูกศิษย์บ้านอุ่นรักสวนสยาม ครูรู้สึกประทับใจที่คุณพ่อคุณแม่ตระหนักรู้ถึงบทบาทของตนเอง เมื่อลูกมีพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่ควรปรับ คุณพ่อคุณแม่มักจะนำข้อมูลมาพูดคุยและขอคำปรึกษาเพื่อหาแนวทางและร่วมมือทำร่วมกันกับครู อีกทั้งให้ความสำคัญในการลงมือปรับพฤติกรรมและกระตุ้นพัฒนาการของลูกที่บ้านด้วยตนเองต่อจากครู ทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด

ครูประทับใจและสบายใจว่าครอบครัวนี้เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่จะนำพาลูกเดินต่อไปได้อย่างดีแน่นอน จึงได้ขอความกรุณาคุณพ่อคุณแม่ให้ช่วยเขียนความรู้สึกของตนเองมาลงให้เพื่อน ๆ ผู้ปกครองท่านอื่น ๆ ได้อ่าน และคุณพ่อคุณแม่คู่นี้ได้กรุณาอนุญาตให้เราแชร์ข้อความเพื่อเป็นแรงบันดาลใจร่วมกันต่อไปค่ะ

กำลังใจถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน

จากคุณพ่อ:

ในวันที่ได้รู้ว่าลูกน้อยของเราเป็นเด็กพิเศษหรือที่เรียกว่าออทิสติก เชื่อว่าคนที่เป็นพ่อแม่ทุกคนย่อมเศร้าเสียใจและเป็นทุกข์ ผมและภรรยาก็เช่นกัน แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ไร้เดียงสาของลูก ทำให้ได้คิดว่าต่อให้เสียใจแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ลูกดีขึ้นมาได้ ถ้าเราอ่อนแอ ลูกก็จะอ่อนแอตามเพราะเค้าช่วยตัวเองไม่ได้ ตัวพ่อแม่เองต้องเข้มแข็งก่อน ความคิดของเราแวบเดียวอาจจะเป็นตัวตัดสินใจเปลี่ยนชีวิตใครบางคนทั้งชีวิต ผมกับภรรยาให้กำลังใจซึ่งกันและกันมาตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าเราสามารถหลุดพ้นจากความเสียใจได้เร็วแค่ไหน ก็จะสามารถหาวิธีการช่วยลูกได้เร็วขึ้นเท่านั้น จากนั้นทุกอย่างจะเริ่มง่ายขึ้น เราช่วยกันหาข้อมูล ปรึกษาคุณหมอ ผู้เชี่ยวชาญและคุณพ่อคุณแม่เด็กพิเศษที่ลูกโตแล้ว เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลลูก

สรุปคร่าว ๆ ได้ดังนี้

หนึ่ง: กิจกรรมบำบัดหรือ SI จำเป็นอย่างยิ่ง ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ

สอง: ปรับพฤติกรรมและกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ

สาม: ฝึกการพูด ออกเสียง จัดรูปปาก

สี่: ฝึกลากเส้นระบายสี รู้จักพยัญชนะและตัวเลขเพื่อเตรียมเข้าเรียนอนุบาล

ห้า: เลือกโรงเรียนที่เข้าใจเรื่องเด็กพิเศษจริง ๆ และควรมีครูประกบเพื่อช่วยให้ปรับตัวตามการเรียนในห้องเรียนได้

ขณะที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ ลูกผมกำลังยิ้ม สนุกกับการเรียนว่ายน้ำ ชอบไปโรงเรียนและร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ กับเพื่อน ๆ เที่ยวกับครอบครัวได้หลาย ๆ วัน ทานอาหารหลากหลาย นอนหลับปกติ ทำกิจวัตรประจำวันเองแทบทุกอย่าง

ผมจึงอยากจะเล่าเพื่อแบ่งปันสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ของเด็ก ๆ ทุกคน

ขอเป็นกำลังใจให้มีความเข้มแข็งไปด้วยกันครับ

จากคุณแม่:

อยากให้คุณพ่อคุณแม่ถ้ามีโอกาสเข้ารับการอบรมเพื่อเข้าใจลูกและเรียนรู้เทคนิควิธีการฝึกลูกที่บ้าน

ค่อย ๆ ฝึกไปเรื่อย ๆ นะคะ

จากที่ใส่รองเท้าเองไม่เป็น ติดกระดุมเสื้อไม่ได้ ซักวันหนึ่งลูกจะทำได้ และจะพัฒนาไปได้อีกเรื่อย ๆ ในอีกหลาย ๆ เรื่องเลยค่ะ

หนักแน่นเข้าไว้นะคะ

รักและเอ็นดูลูกมาก ๆ เค้าน่ารักค่ะ

เครดิต Icon: Flaticon.com

ความรู้สึกของแดเนี่ยล แทมเม็ต ผู้เขียนหนังสือ เรื่อง “จากออทิสติกสู่อัจฉริยะ (Born on a Blue Day)” | บ้านอุ่นรัก

ความรู้สึกของแดเนี่ยล แทมเม็ต ผู้เขียนหนังสือ เรื่อง “จากออทิสติกสู่อัจฉริยะ (Born on a Blue Day)” | บ้านอุ่นรัก

คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง อาจเคยสงสัยในบางครั้งว่าลูกออทิสติกที่วันนี้ยังไม่ยอมพูดไม่ยอมจา ไม่สบตา หรือไม่บอกรักเรา เขารู้สึกอย่างไรต่อเรากันนะ….?

ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการ “บ้านอุ่นรัก” ขอนำข้อความที่ “แดเนี่ยล แทมเม็ต” (ผู้เขียนหนังสือ เรื่อง “จากออทิสติกสู่อัจฉริยะ (Born on a Blue Day)) เขียนถึงคุณพ่อและคุณแม่ของเขาไว้อย่างน่ารักจับใจมาฝาก ทั้งนี้ เรามั่นใจว่า…ลูกของคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองก็รู้สึกเช่นนี้เช่นกัน

“…..ผมนั่งอยู่ตรงนี้ในเวลานี้…เพื่อเล่าเรื่องราวในอดีตสมัยเป็นเด็ก…ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจกับความพยายามและอดทนที่พ่อกับแม่มีให้ผมอย่างมากมายแม้จะได้รับผลตอบกลับเพียงเล็กน้อย เทียบกับเวลาที่เสียไป

เวลาที่ฟังพ่อแม่เล่าถึงช่วงเวลาหลายปีในวัยเยาว์ของผม  มันเหมือนต้องมนตราอันแปลกประหลาด 

ได้รับรู้ว่าท่านต้องปรับเปลี่ยนบทบาทของตัวเองในการเลี้ยงดูผมอย่างไร เมื่อท่านเริ่มเข้าใจถึงปัญหาหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมากมายจนทำให้ผมสามารถยืนหยัดในโลกนี้อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ 

แม้ผมจะมีปัญหามากมาย ทั้งการร้องไห้อาละวาดและความยากอื่น ๆ ในการเลี้ยงดู..พ่อกับแม่ก็ยังรักผม  โดยปราศจากเงื่อนไขใดใดและยอมอุทิศตน  เสียสละทุกอย่าง เพื่อช่วยเหลือผมทีละเล็กทีละน้อยวันแล้ววันเล่า

พวกท่านเป็นยอดคนของผมอย่างแท้จริง”

คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง อย่ายอมแพ้กลางคันนะคะ เพราะทุกท่านคือ The Back-Up ผู้เป็นคนเบื้องหลัง ผู้เต็มไปด้วยพลังแห่งรัก และเป็น “ยอดคนของลูก” ที่สามารถทำสิ่งดี ๆ เพื่อลูกได้เสมอค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ลูก ๆ ก็ยังมีเรา | บ้านอุ่นรัก

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ลูก ๆ ก็ยังมีเรา | บ้านอุ่นรัก

เพราะยังอ่อนเยาว์ ลูกจึงต้องการให้เรา ช่วยนำทาง

เพราะรู้ว่ารักของเราไม่มีวันจืดจาง ลูกจึงวางใจเดินตาม ทางที่เราก้าวนำ

……….

ลูกยังอ่อนเยาว์ ลูกจึงต้องการให้เราช่วยนำทางค่ะ

เพราะฉะนั้น…ยิ้มในใจ….แล้วจูงมือลูกก้าวเดินไปข้างหน้ากันดีกว่าค่ะ

……….

เครดิตภาพ: Phillppe Jausions | Unsplash

ลูกเกิดมาเป็นสิ่งล้ำค่าบนโลกนี้ | บ้านอุ่นรัก

ลูกเกิดมาเป็นสิ่งล้ำค่าบนโลกนี้ | บ้านอุ่นรัก

ลูกเกิดมาเป็นสิ่งล้ำค่าบนโลกนี้ เกิดมาด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์  ไม่คิดจะทำร้ายใคร และจะไม่ทำร้ายใครด้วยเจตนา

ลูกคิดแบบตรง ๆ ไม่มีชั้นเชิง ไม่คิดขยายความ  จึงเป็นโชคดีอีกชั้นของลูก ที่ทำให้ลูกไม่ถูกใคร ๆ ทำร้ายจิตใจได้โดยง่าย

ลูกที่ล้ำค่า คิดตรง ๆ ไม่คิดขยายความ มีศักยภาพพิเศษสุดซ่อนอยู่ภายใน และลูกจะเก่งกว่านี้ได้อีกหลายเท่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเริ่มต้นลงมือช่วยลูกเมื่อไร?

หากทำได้เร็ว เรา…จะมีเวลามากพอที่จะสอนลูกในเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของลูก

หากทำได้เร็ว ลูก…จะมีเวลามากพอที่จะค่อย ๆ เรียนรู้และปรับแต่งพฤติกรรม จนเก่งขึ้นและเก่งมากขึ้นจนสมบูรณ์แบบเต็มตามศักยภาพที่ลูกมี

ลูกเก่งกว่าที่เห็นและเป็นอยู่ในวันนี้ได้อีกหลายเท่า

ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับเรา…

เครดิตภาพ: Kelly Sikkema | Unsplash