7 เรื่องที่ต้องเตรียมตัว เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน เรียนร่วม
Back to school ค่ะ ช่วงนี้ เป็นช่วงเวลาของเทศกาลเปิดเทอมที่แสนคึกคัก แต่สำหรับลูกๆที่มีอาการออทิสติก รวมถึงเด็กๆที่ต้องการการดูแลพิเศษจากผลของความไม่สมวัยทางทางพัฒนาการ ช่างเป็นเวลาแห่งการปรับตัวขนานใหญ่และเป็นช่วงที่พ่อแม่ทั้งภูมิใจที่ได้เห็นลูกในชุดนักเรียน แต่อีกทางก็หวั่นใจลึกๆว่าลูกจะใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ดีหรือไม่
ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กๆ สำหรับก้าวแรก โดยเฉพาะสำหรับเด็กออทิสติก เพราะเค้าจะต้องอาศัยการปรับตัวอย่างมาก จากการที่มีระบบการรับรู้ไว ปรับตัวยากกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ การสื่อสารทางภาษายังไม่สมวัย มีพฤติกรรมและอารมณ์ที่ยึดติดมีรูปแบบเฉพาะตัว และอีกหลายข้อจำกัด หากไม่ผ่านการเตรียมตัวที่ดีพอ เราจะเห็นภาพเด็กๆที่แยกตัวอยู่ตามมุม วิ่งไปมา ออกนอกห้องเรียน ไม่สามารถสื่อสาร ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ หรือแสดงพฤติกรรม อารมณ์หงุดหงิด
แต่การเตรียมตัวที่ดี มีการติดตามด้านพัฒนาการ ผ่านการปรับพฤติกรรมที่ขัดขวางการดำรงชีวิต และมีการเตรียมตัวก่อนเด็กๆจะ ก้าวออกไปการเรียนรู้ในสังคมใหม่ๆ มาสักระยะหนึ่งแล้วจะส่งผลให้เด็กๆปรับตัวได้เร็วและประสบความสำเร็จในการเรียนร่วมได้ง่ายขึ้น
ซึ่งที่บ้านอุ่นรักเราจะให้ความสำคัญกับขั้นตอนการเตรียมความพร้อมก่อนส่งต่อเด็กๆเข้าเรียนร่วม โดยเด็กๆจะมาเข้าคอร์สเตรียมความพร้อมแบบเต็มวัน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ถึงหนึ่งปี+ ตามระดับอาการของเด็กๆ ซึ่งครูนิ่มอยากจะขอยกประสบการณ์ ที่ทีมงานบ้านอุ่นรักมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับโรงเรียนและมีระบบการส่งต่อเด็กไปโรงเรียนมานานกว่า 15 ปี โดยมาคุยขอยกแนวทางที่เด็กๆควรผ่านการเตรียมตัว เพื่อเป็นแนวทางเพื่อผู้ปกครองสามารถนำไปปรับใช้เตรียมตัวลูกที่บ้าน ดังนี้นะคะ
7 เรื่องที่ต้องเตรียมตัว เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน เรียนร่วม
1 สร้างแรงจูงใจและพร้อมเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมใหม่ๆด้วยตนเอง
เด็กๆ ควรผ่านประสบการณ์การเรียนรู้ที่ออกแบบมาให้เกิดมิติของการเรียนรู้ ผ่านการฟัง การเห็นและลงมือทำ จนเด็กๆรู้สึกได้ว่ากิจกรรมที่เกิดตรงหน้ามีความน่าสนใจ ส่งผลให้เด็กๆเกิดแรงจูงใจ สนใจมองการสาธิตแบบหน้าชั้น สร้างพฤติกรรมเลียนแบบและสามารถมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายกับกิจกรรมในรูปแบบที่หลากหลาย
2 ฝึกการคงสมาธิจดจ่อที่ยาวนานมากพอที่จะเกิดการเรียนรู้
เช่น ฝึกการนั่งหรือคุมตนเองให้เคลื่อนไหวหมุนเวียนตามฐานการเรียนรู้แบบต่างๆ ได้อย่างน้อยช่วงละ 10-15 นาทีขึ้นไป และมีสมาธิในกิจกรรมที่ลงมือทำงานได้แบบรวดเดียวจบ อย่างน้อย 10-15 หน่วย
3 ฝึกเด็กๆให้สามารถนำพาตนเองให้ดำเนินไปตามตารางกิจวัตรประจำวัน ประจำวันในโรงเรียน
4 ฝึกการสื่อสาร
โดยกระตุ้นให้เด็กๆมีความพยายามที่จะสื่อสารมากขึ้น ด้วยการพูด หรือใช้ภาษาท่าทาง ตลอดจนฝึกการฟังเข้าใจภาษาสามารถทำตามคำสั่งหรือสานต่อในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
5 ปรับพฤติกรรมและการควบคุมอารมณ์ตนเอง
เพื่อการอยู่ร่วมในสังคมให้ได้ เช่น รู้วิธีควบคุมอารมณ์ตนเองหรือหยุดแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้เมื่อเตือน
6 ฝึกการช่วยเหลือตนเองตามวัย
เช่น ฝึกการขับถ่ายในห้องน้ำตามเวลาโดยไม่ต้องใส่แพมเพิร์ส ฝึกการนั่งทานอาหารด้วยตนเอง ฝึกการนอนกับที่ในเวลากลางวัน ฝึกการแต่งกายง่ายๆด้วยตนเองฯลฯ
7 ฝึกให้มีทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้
เนื่องจากอาการบางด้านจะทำให้เด็กออทิสติกเรียนรู้สิ่งใหม่ๆได้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน จึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมทางการเรียนไว้ในระดับหนึ่ง เช่น เรียนรู้พื้นฐาน สี รูปทรง อักษร ตัวเลข ฝึกลีลามือ สามารถทำชีทแบบฝึกง่ายๆโดยไม่ฉีกหรือขยำทิ้งอย่างไม่มีความหมาย
*** ที่สำคัญคือ ก่อนตัดสินใจส่งลูกเข้าเรียร่วม ควรหาโอกาสไปพบเพื่อขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้ดูแลด้านพัฒนาการของลูก (จิตแพทย์เด็ก หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก) ว่า ลูกมีความพร้อมหรือไม่ อย่างไร โดยแพทย์จะพิจารณาจาก ระดับพัฒนาการและพฤติกรรมของลูกๆ โดยจะให้คำแนะนำที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
พวกเราทีมงานบ้านอุ่นรักขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวนะคะ มีกรณีใดที่คุณพ่อคุณแม่หรือทางโรงเรียน ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับการเข้าเรียนร่วมในโรงเรียน สามารถติดต่อมาพูดคุยกับพวกเราได้ผ่านช่องทางนี้ค่ะ….