เรื่องการบำบัดรักษาอาการลูกออทิสติกนั้น   นอกจากการบำบัดรักษาจากผู้เชี่ยวชาญแบบสหวิชาชีพเข้ามาเกี่ยวข้อง แล้วคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเรียนรู้และ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการออทิสติกให้มากพอ  เมื่อมีความรู้เรา จะเกิดความมั่นใจ มีกำลังใจ ไม่กลัวในสิ่งที่เราจินตนาการเกินจริง และเกิดความเชื่อมั่นว่าขอเพียงรู้แนวทาง ปัญหาอุปสรรคทุกอย่างแก้ไขได้ แน่นอนค่ะ

พวกเราชาวบ้านอุ่นรัก  มีความตั้งใจว่านอกจากงานกระตุ้นพัฒนาการเด็กๆในศูนย์ฯแล้ว  พวกเราจะเป็นเพื่อนคู่คิด จัดหาให้ข้อมูลและข่าวสาร  ในรูปแบบต่างๆ  ที่มีประโยชน์ต่อการช่วยลูก ๆ ออทิสติกของพ่อแม่ผู้ปกครองทุก ๆ บ้านค่ะ

วันนี้พวกเราพบบทความที่น่าสนใจเรื่อง “20 คำศัพท์ที่ต้องรู้เมื่อพูดถึงออทิสติก” หรือ “20 Words to Know When Discussing Autism (Vocab)” ซึ่งโพสต์โดย We Rock the Spectrum Kid’s Gym ทีมงานบ้านอุ่นรักจึงแปลสรุปความมาแชร์ให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้อ่านไปด้วยกัน ส่วนข้อมูลต้นฉบับ สามารถอ่านได้จากลิ้งค์ข้างล่างนี้นะคะ

(หมายเหตุ: We Rock the Spectrum Kid’s Gym เป็นโรงยิมออกกำลังกายสำหรับเด็ก ตั้งอยู่ที่เมืองลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอมเริกา โรงยิมแห่งนี้ต้องการให้เด็ก ๆ ได้รับประโยชน์จากการใช้อุปกรณ์ประสาทสัมผัส จึงมีการออกแบบอุปกรณ์เหล่านี้มาโดยเฉพาะเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่มีปัญหาด้านการประมวลผลทางประสาทสัมผัส)

20 คำศัพท์ที่ต้องรู้เกี่ยวกับอาการของลูกออทิสติก

1 Echolalia

คือ อาการที่ลูกเปล่งเสียงซ้ำ ๆ พูดคำซ้ำ ๆ หรือพูดประโยคซ้ำ ๆ แต่การออกเสียง เอ่ยคำ หรือพูดวลีซ้ำ ๆ นั้น ลูกไม่ได้ใช้ในการสื่อความหมายอย่างมีประสิทธิภาพ หรือลูกไม่ได้ทำเพื่อแสดงออกในเรื่องต่าง ๆ ตามที่ลูกคิด ลูกแค่เปล่งเสียงตามที่เคยรู้หรือได้ยินมา หรือลูกเพียงพูดเลียนแบบ เช่น เมื่อเราตั้งคำถามให้ลูกตอบ ลูกก็จะพูดทวนคำถามที่ลูกได้ยิน แต่ลูกจะไม่ตอบคำถามนั้น ๆ เป็นต้น

2 Scripting

เป็นอาการที่ลูกออทิสติกมักพูดคำซ้ำ ๆ หรือพูดประโยคเดิม ๆ ลูกมีการออกเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ซ้ำไปซ้ำมา หรือลูกพูดตามถ้อยคำของคนอื่นที่ลูกได้เห็นหรือได้ยินมา ไม่ว่าจะเป็นการได้ยินมาจากการชมภาพยนต์ ได้ฟังมาจากคำพูดของคนอื่น หรือได้อ่านมาจากหนังสือเล่มโปรด ทั้งนี้ บางครั้งเราจะพบว่ามีการใช้คำว่า Scripting และ Echolalia ในความหมายที่คล้าย ๆ กันในการพูดถึงโรคออทิซึมค่ะ

3 Perseveration

คือ อาการหรือพฤติกรรมที่ลูกติดอยู่ หรือยังคงเพียรพยายามทำซ้ำ ๆ ต่อเนื่องอยู่ แม้สิ่งเร้าที่ทำให้ลูกเกิดอาการหรือแสดงพฤติกรรมนั้น ๆ ได้จบลงไปแล้วก็ตามที อาการที่ลูกติดอยู่กับบางเรื่องบางอย่างนี้ ส่งผลให้ลูกไม่สามารถปรับใจหรือยากที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง

4 Applied Behavioral Analysis Therapy

เรียกย่อ ๆ ว่า ABA เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วยการวิเคราะห์พฤติกรรมเพื่อนำผลที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการบำบัดรักษาต่อไป ทฤษฎีนี้ใช้หลักของการเรียนรู้ หลักการใช้แรงจูงใจ อันจะส่งผลต่อการเกิดพฤติกรรม ทั้งนี้ นักบำบัดหลาย ๆ ท่านได้ใช้ทฤษฎี ABA นี้ในการบำบัดรักษาลูก ๆ ออทิสติก ในแง่การเพิ่มทักษะการสื่อสาร การเล่น การเข้าสังคม การเรียนรู้ด้านวิชาการ หรือแม้แต่การดูแลช่วยเหลือตนด้วยค่ะ 

5 504 Plan

หรือ แผน 504 เป็นแผนที่รับประกันว่านักเรียนผู้มีความบกพร่องหรือความพิการ ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจิตใจ จะต้องได้รับการอำนวยความสะดวกในการขอรับความช่วยเหลือเรื่องการศึกษาเล่าเรียนจนกว่าจะเรียนจบ ทั้งนี้ แผนนี้เป็นของประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนในประเทศไทยก็มีกฏหมายสำคัญ ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกันค่ะ

6 Individualized education program

เรียกย่อ ๆ ว่า IEP หรือแผนการศึกษารายบุคคล แผนการศึกษาแบบนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ ที่มีความต้องการพิเศษได้เข้าสู่ระบบการศึกษาที่มีรูปแบบสอนเฉพาะแบบที่เหมาะสมเฉพาะตนกับเด็ก อีกทั้งเด็กต้องได้รับบริการที่เกี่ยวเนื่องในด้านต่าง ๆ อันจะส่งผลให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

7 Transition

หรือช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่เปลี่ยนผ่านจากสภาพแวดล้อมหรือกิจกรรมหนึ่งไปยังสภาพแวดล้อมหรือกิจกรรมอื่น สำหรับลูกออทิสติก ก่อนการเปลี่ยนผ่านระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ พ่อแม่ผู้ปกครองหรือคนที่เกี่ยวข้องควรบอกหรือเตือนให้ลูกรู้ล่วงหน้าก่อน เพื่อลดความสับสน หรือความวิตกกังวลให้ลูก ๆ ค่ะ

8 Meltdown

เป็นอาการของลูกออทิสติกที่แสดงออกทางอารมณ์ ไม่ว่าจะแสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดหรือทำแบบเงียบ ๆ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนเป็นวิธีที่ลูกแสดงปฏิกริยาตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ลูกรู้สึกว่าสับสนหรือมีตัวกระตุ้นที่ท่วมท้นมากมายจนเกินไปนั่นเอง

9 Stimulatory Behavior (Stimming)

หรือพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของลูก ไม่ว่าจะเป็นการหมุนสิ่งของ การเปล่งเสียงแบบเลียนแบบ การทำอากัปกริยาซ้ำไปซ้ำมา ทั้งนี้ การที่ลูกทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ เพราะลูกใช้มันในการลดหรือบรรเทาความเครียดจากการที่ลูกได้รับการกระตุ้นจากสิ่งเร้ารอบตัวที่มากจนเกินไปนั่นเอง

10 Visual Schedule

หรือตารางภาพกิจวัตรที่ช่วยให้ลูกออทิสติกรู้ลำดับของกิจวัตรหรือเรื่องที่ลูกต้องทำตามลำดับล่วงหน้าก่อน ทั้งนี้ การที่ลูกได้รู้ลำดับของกิจวัตรที่จะเกิดตามลำดับจากการดูตารางภาพกิจวัตรจะเป็นตัวช่วยลดความสับสนและวิตกกังวลสำหรับลูกออทิสติกค่ะ

11 Elopement

หรือการแยกตัว ทั้งนี้ลูกออทิสติกมักแยกตัวไปโดยไม่บอกกล่าว ไม่ขออนุญาตก่อนที่จะไป และไม่บอกว่าจะไปไหน การแยกตัวในลักษณะนี้นับเป็นพฤติกรรมที่น่ากังวลและต้องหาทางป้องกันหรือแก้ไขค่ะ

12 Savant

หรือการเป็นผู้รู้ กล่าวคือ ลูกออทิสติกมีลักษณะการเป็นผู้รู้นี้ ลูกจะมีความรู้อย่างละเอียดลออในเรื่องที่ลูกสนใจค่ะ

13 Splinter skill

หรือการที่มีลูกมีทั้งทักษะที่ดีและด้อยกว่าระดับปกติผสมผสานกันไป กล่าวคือ ลูกออทิสติกจะมีทักษะบางอย่างที่ดีมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ในขณะเดียวกัน ลูกก็จะมีทักษะหรือความสามารถในเรื่องอื่น ๆ ที่ด้อยกว่าคนอื่น ๆ ด้วยค่ะ

14 Sensory Processing Disorder

หรือ SPD เป็นความผิดปกติของระบบประมวลผลการรับสัมผัสทางประสาทสัมผัส เมื่อสภาวะของระบบประสาทรับสัมผัส การประมวลผลการรับสัมผัสขาดประสิทธิภาพ ลูกออทิสติกจึงตอบสนองต่อการรับสัมผัสนั้น ๆ แบบผิดปกติก เช่น ลูกออทิสติกที่มีการประมวลผลทางประสาทสัมผัสไวกว่าปกติ จะรู้สึกไวเมื่อสัมผัสกับผิวของผ้าบางชนิดหรือลูกอาจรู้สึกไวต่อพื้นผิวของอาหารบางแบบที่ลูกสัมผัสเมื่อได้ทานเข้าไป เป็นต้น

15 Vestibular System

หรือระบบการทรงตัว ตามปกตินั้น ระบบประสาทสัมผัสที่สมดุล ทำให้เรามีการเคลื่อนไหวแบบต่าง ๆ ที่สอดประสานกันระหว่างอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวนั้น ๆ แต่สำหรับลูกออทิสติกแล้ว ลูกจะมีปัญหาเรื่องการทรงตัว การเคลื่อนไหวของลูกมักมีลักษณะไม่สมดุลและขาดการสอดประสานกันระหว่างอวัยวะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ลูกจึงมีท่าเดินและจังหวะการเดินที่ผิดไปจากปกตินะคะ

16 Comorbidity

คือ ภาวะที่ลูกจะมีอาการของความเจ็บป่วยสองโรคคู่กันไป เช่น ลูกจะเป็นโรคลมชักและโรคย้ำคิดย้ำทำคู่กันไป เป็นต้น

17 Joint Attention

เป็นสภาวะที่เรามีความสนใจร่วมกันกับคนอื่น ๆ เรื่องความสนใจร่วมกันนี้เป็นทักษะทางสังคมที่พัฒนาตั้งแต่ลูกยังเล็กค่ะ ความสนใจร่วมกันนี้รวมความไปถึงการชี้ชวน แบ่งปันเรื่องที่สนใจ และการมองตามคนอื่น ๆ ด้วย เช่น ในขณะที่เด็ก ๆ เล่นด้วยกันนั้น เด็ก ๆ มักชอบพูดว่า “ดูฉันสิ” หรือชอบชี้ให้คนอื่นมองตามสิ่งที่เด็กเห็น แต่ลูกออทิสติกจะมีความสนใจร่วมกันกับคนอื่นในระดับที่ต่ำมากจนกระทั่งถึงไม่มีความสนใจร่วมกับคนอื่นเลยค่ะ

18 Prosody

หรือจังหวะของเสียงที่เปล่งออกมาเป็นภาษาพูด เวลาที่เราพูด เราจะมีระดับเสียงสูง-ต่ำตามการผันคำ มีการกำหนดระดับเสียง มีการเน้นเสียง มีการเปลี่ยนเสียงสูง-ต่ำ และมีท่วงทำนองของเสียงที่เราพูด แต่ลูกออทิสติกจะมีโทนเสียงที่ต่างจากปกติ กล่าวคือ ลูกอาจพูดเสียงเดียวราบเรียบแบบไม่มีเสียงสูงหรือเสียงต่ำเลย หรือในอีกกรณีคือ ลูกจะพูดเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ เหมือนกำลังร้องเพลง เป็นต้นค่ะ

19 Discrete Trial

หรือการแยกย่อยส่วนงาน เป็นโครงสร้างของการสอนงานลูก ๆ ออทิสติกที่มีการย่อยงานออกเป็นส่วน ๆ เพื่อให้ลูกเข้าใจงานที่ละส่วนได้โดยง่าย งานแต่ละอย่างที่จะสอนให้ลูกทำ จะถูกแยกย่อยออกเป็นขั้นตอนจากต้นจนจบ การบำบัดแบบ ABA ก็ใช้การย่อยงานในการบำบัดรักษาด้วยเช่นกันค่ะ (สำหรับการย่อยงานนี้ บ้านอุ่นรักก็ใช้หลักการนี้ในการสอนลูก ๆ ออทิสติกเช่นกัน แต่เราใช้คำว่า Task Analysis ซึ่งก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า Discrete Trial นะคะ)

20 Cognitive Behavioral Therapy

หรือ CBT หรือการบำบัดด้วยการเปลี่ยนความคิดอันส่งผลให้พฤติกรรมเปลี่ยนตาม การบำบัดแบบนี้เป็นรูปแบบจิตบำบัดที่จะเปลี่ยนชุดความคิดในทางลบที่บุคคลมีต่อตนเองและต่อโลก กล่าวคือ เมื่อความคิดที่เรามีอยู่เปลี่ยนไป พฤติกรรมของเราที่จะแสดงออกก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย รูปแบบการบำบัดนี้ใช้เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์หรือบำบัดความผิดปกติทางอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้า ส่วนกรณีของลูกออทิสติกที่มีความวิตกกังวลสูงและมีภาวะซึมเศร้า พบว่า การบำบัดแบบนี้ช่วยลดพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์และบรรเทาความรู้สึกต่าง ๆ ทางลบได้ด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดและการรับรู้ที่ลูกมีต่อเรื่องต่าง ๆ ค่ะ

(ข้อมูลเพิ่มเติมที่ทีมงานหามา พบว่าแนวทางในการบําบัดแบบ CBT นี้ คือ ถ้าเราสามารถประเมิน (evaluate) ความคิดให้ถูกต้อง ตามความเป็นจริงหรืออยู่ในโลกของความเป็นจริงได้ (realistic) อาการเกี่ยวกับอารมณ์และพฤติกรรมของเราก็จะดีขึ้น ทั้งนี้ มีขั้นตอน คือ การทําให้เราเข้าใจก่อนว่าความคิดใดที่มีไม่สมเหตุสมผล ไม่สมเหตุสมผลอย่างไร  ให้เราประเมิณและแก้ไขความคิดให้ดีขึ้นต่อไป – ที่มาของข้อมูลเพิ่มเติม http://www.thaidepression.com/www/56/CBTdepression.pdf)

คำที่เกี่ยวข้องกับอาการออทิสติกยังมีอีกมากมายค่ะ ไว้เราจะทยอยลงในบทความอื่น ๆ ต่อไปนะคะ

ทีมงานบ้านอุ่นรัก ขอขอบพระคุณ

คุณจินตวีร์  สายแสงทอง

ผู้แปลและเรียบเรียงบทความนี้ มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ