What & Why | บ้านอุ่นรักทำอะไร เพราะอะไรจึงทำ | บ้านอุ่นรัก

What & Why | บ้านอุ่นรักทำอะไร เพราะอะไรจึงทำ | บ้านอุ่นรัก

What บ้านอุ่นรักทำอะไร 

ทำสิ่งที่ดีและถูกต้องในทุก ๆ วันในฐานะครูกระตุ้นพัฒนาการ เพื่อกระตุ้นพัฒนาการและแก้ไขอาการที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเป็นปัญหาที่ทำให้การดำรงชีวิตของเด็ก ๆ ไม่ปกติสุข ฝึกการดำรงชีวิต ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ทางบวก และเตรียมความพร้อมให้กับลูกศิษย์ที่มีอาการออทิสติก สมาธิสั้น หรือพัฒนาการช้าไม่สมวัย ให้เด็ก ๆ มีความพร้อมมากพอที่จะช่วยเหลือตนเองได้ตามวัยมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้เด็ก ๆ รายที่มีความพร้อมมากพอเหล่านี้ ได้เข้าเรียนร่วมในโรงเรียนอนุบาลในลำดับถัดไป

ทำสิ่งที่ดีและถูกต้องในทุก ๆ วันในฐานะเพื่อนคู่คิดของคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครอง เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าการเดินทางของท่านบนเส้นทางสายนี้ แม้จะขรุขระและมีอุปสรรคขวากหนาม แต่ท่านยังเราซึ่งมีทั้งองค์ความรู้และประสบการณ์ตรงในการทำงานด้านนี้มากว่า 26 ปี เป็นที่ปรึกษา อีกทั้งจะมีเราเป็นเพื่อนแท้ ผู้คอยรับฟัง ส่งมอบกำลังใจ ให้คำแนะนำ และแนวทางการดูแล ฟื้นฟู และสร้างเสริมพัฒนาการให้ลูก ได้อย่างถูกต้องที่บ้านด้วยตัวของท่านเองต่อจากเรา จนกว่าลูก ๆ จะเติบโตและช่วยเหลือตนเองได้

ทำสิ่งที่ดีและถูกต้องในทุก ๆ วันในฐานะผู้ประสานงานการเรียนร่วม เพื่อคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครูที่โรงเรียนของลูกรายที่มีความพร้อมในการเข้าเรียนร่วม มั่นใจได้ว่าเราจะอยู่เป็นเพื่อนคู่คิด ผู้คอยส่งเสริม ประสานงาน และร่วมกันหาวิธีที่ถูกต้องไปกับท่านในการช่วยให้ลูก ๆ และเด็ก ๆ ได้เรียนร่วมอย่างต่อเนื่องและมีความหมายอย่างแท้จริง

Why ทำเพราะอะไร

เพราะเรามั่นใจว่าด้วยความรักที่คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และเรา ต่างมีและมอบให้กับเด็ก ๆ จะ “ทำให้ทุกอย่างที่ดีกว่านี้เป็นไปได้”

เพราะเด็ก ๆ ทุกคนมีศักยภาพและความสามารถซ่อนอยู่ภายใน เด็ก ๆ กำลังรอให้เราร่วมใจ ร่วมมือกัน และลงมือค้นหา ส่งเสริม ให้การสนับสนุน จนเขาสามารถเติบโตและเบ่งบานได้อย่างสวยงามตามรูปแบบที่เหมาะสมกับเขาแต่ละคนอย่างแท้จริง

บ้านอุ่นรักใช้องค์ความรู้และประสบการณ์ตรงที่มีในการลงมือกระตุ้นพัฒนาการ ปรับพฤติกรรม และเตรียมความพร้อมให้กับเด็ก ๆ

บ้านอุ่นรัก…เชื่อมั่นตลอดมาว่าความรักของท่านที่มีให้กับลูก ๆ เด็ก ๆ ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้

บ้านอุ่นรัก…มั่นใจว่าเด็ก ๆ ทุกคนล้วนมีศักยภาพและความสามารถในแบบของตนเอง

…นั่นคือ What & Why ในการลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ที่ดีและถูกต้องในทุก ๆ วันของพวกเรา 

กิจกรรมฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และการวางแผนเคลื่อนไหวทางร่างกาย (สนุก ๆ แต่มีเป้าหมาย) ที่บ้านอุ่นรัก | บ้านอุ่นรัก

กิจกรรมฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และการวางแผนเคลื่อนไหวทางร่างกาย (สนุก ๆ แต่มีเป้าหมาย) ที่บ้านอุ่นรัก | บ้านอุ่นรัก

ที่ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการบ้านอุ่นรัก คุณครูของเราจะแทรกกิจกรรมหลากหลายรูปแบบลงไปในตารางฝึกทักษะและกระตุ้นพัฒนาการประจำวันให้กับเด็ก ๆ โดยมีเป้าหมายว่าเด็กต้องได้รับประโยชน์ 2 ประการเป็นอย่างน้อย คือ (1) เกิดความสนุกสนานที่ได้เล่นแบบมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับบุคคลอื่น และ (2) ได้ฝึกทักษะและสร้างเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ให้กับเด็กตามความจำเป็น และกิจกรรมรูปแบบหนึ่งที่ทั้งสนุกและมีเป้าหมายของเรา คือ “กิจกรรมฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และการวางแผนเคลื่อนไหวทางร่างกาย”

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่าการฝึกทักษะการเคลื่อนไหวมีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อเด็ก ๆ มากเพียงใดและอย่างไร?

“กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย” โดยเฉพาะในวัยเด็กเล็ก มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในด้านการส่งเสริมความเจริญเติบโตทางร่างกายที่ประกอบด้วยความแข็งแรงทนทาน ทักษะการทรงตัว ความยืดหยุ่นทางร่างกาย การทำงานร่วมกันของอวัยวะต่าง ๆ การคิดวางแผนเพื่อเคลื่อนไหวผ่านสิ่งกีดขวาง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อความปลอดภัยเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขัน และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายส่งผลดีโดยตรงต่อศักยภาพการทำงานของสมอง ดังนั้น เมื่อเราต้องการกระตุ้นพัฒนาการให้กับเด็ก ๆ ที่เป็นเด็กพิเศษ (โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเด็กเล็กหรือเด็กที่เพิ่งเข้ามารับการกระตุ้นพัฒนาการในช่วงต้นของโปรแกรมการบำบัด) เราจึงให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการจัดโปรแกรมด้านทักษะการเคลื่อนไหว ถึงขนาดที่ต้องยกให้เป็น “กิจกรรมสำคัญหลัก” อีกกิจกรรมหนึ่งกันเลยทีเดียว

กิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายมีความสำคัญหลายประการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ส่วน “การฝึกทักษะการเคลื่อนไหว” ให้กับเด็กก็มีความสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะจะทำให้เด็กได้รับประโยชน์หลายประการ ดังต่อไปนี้

  • สร้างสารเคมี กระตุ้นสื่อประสาทในสมอง
  • เพิ่มความแข็งแรง สะพานเชื่อมสมองซ้าย-ขวา
  • ควบคุมร่างกายตนเองในการใช้กล้ามเนื้อได้ทั้งมัดใหญ่-มัดเล็ก
  • เพิ่มออกซิเจน-พลังงาน
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึงเครียด
  • กล้าเผชิญปัญหา (การเล่นผาดโผน)
  • ลดความรนรีบในเด็กที่ซน เพิ่มระดับการเคลื่อนไหวในเด็กที่เฉื่อยช้า
  • ทำให้เด็กรู้สึกสนุกสนาน
  • หากใช้ประกอบการเรียนรู้จะช่วยเพิ่มความสนใจ

ที่บ้านอุ่นรัก เราจะแยกกิจกรรมทักษะการเคลื่อนไหวออกมาเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมจากกิจกรรมการประมวลระบบประสาทสัมผัส หรือ Sensory Integration เนื่องด้วยในแต่ละทักษะและนักวิชาชีพ จะมีองค์ความรู้และกรอบแนวคิดที่มีลักษณะเฉพาะ เราจึงนำองค์ความรู้และกรอบแนวคิดที่มีลักษณะเฉพาะนั้น ๆ มาประยุกต์ใช้ให้สอดประสานกัน เพื่อส่งผลให้เกิดการพัฒนาทักษะทางบวกแก่เด็ก ๆ ที่เป็นลูกศิษย์ของเรา โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่มีปัญหาด้านทักษะการเคลื่อนไหว

สำหรับเด็กที่มีปัญหาด้านทักษะการเคลื่อนไหวนั้น บ้านอุ่นรักมีข้อสังเกตอาการมาฝากคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครู เพื่อให้ลองพิจารณากันว่าลูก ๆ เด็ก ๆ มีลักษณะการเคลื่อนไหวดังต่อไปนี้บ้างหรือไม่ ซึ่งจะทำให้เราพอที่จะรู้ว่าพวกเขามีปัญหาด้านทักษะการเคลื่อนไหวหรือไม่นั่นเอง

  • มีอุบัติเหตุบ่อย ๆ ล้มบ่อย
  • มีลักษณะงุ่มง่าม เคลื่อนไหวช้า ไม่สมวัย เคลื่อนไหวดูไม่ราบรื่น
  • มีลักษณะเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหว ผาดโผน หรือกิจกรรมที่ต้องอาศัยทักษะการทรงตัว
  • เป็นเด็กที่ทำกิจกรรมในลักษณะสหสัมพันธ์ (กิจกรรมที่ต้องอาศัยการทำงานของอวัยวะร่างกายร่วมกันหลาย ๆ ส่วน) ได้ไม่ดีนัก เช่น เรียนวิชาพละได้ไม่ดีนัก เป็นต้น

หากเด็ก ๆ มีปัญหาด้านทักษะการเคลื่อนไหว เราควรรีบหาทางแก้ไข และในตอนนี้ บ้านอุ่นรักขอยกตัวอย่างปัญหาดังกล่าว ตลอดจนข้อแนะนำเกี่ยวกับกิจกรรมฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และการวางแผนเคลื่อนไหวทางร่างกายที่จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ดังนี้

  • ปัญหาการทรงตัว | แก้ไขโดยใช้กิจกรรมเดิน วิ่ง คลาน กระโดด เดินขึ้นลงบันได วิ่ง-กระโดด-เคลื่อนไหวผ่านสิ่งกีดขวาง
  • ปัญหาการสมดุลตนเอง เช่น ล้มบ่อย เบรกตนเองไม่ทัน | แก้ไขโดยใช้กิจกรรมที่มีอุปกรณ์ที่ไม่มั่นคง เช่น กระดานโยกเยก ถาดทรงตัว
  • ปัญหาการใช้อวัยวะสองส่วนร่วมกัน |แก้ไขโดยใช้กิจกรรมยืดหยุ่น โยคะ ท่าออกกำลังกาย ท่ากายบริหาร ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ
  • ปัญหาการเคลื่อนไหวที่มีจังหวะรีบร้อน รนรีบ ไม่ระวังอันตราย ไม่มีจังหวะจะโคน | แก้ไขโดยใช้กิจกรรมที่มีอุปกรณ์เป็นสิ่งกีดขวางเพื่อให้เด็กระมัดระวัง คุมตนเองมากขึ้น และไม่เคลื่อนไหวแบบรีบร้อนจนเกินไป เช่น เดินสะพายทรงตัว เดิน-วิ่งผ่านกรวยยาง เดินข้ามสิ่งกีดขวาง กระโดดบนรอยเท้า
  • ปัญหาซน อยู่ไม่สุข หรือในทางตรงข้ามคือเฉื่อยช้า | แก้ไขโดยใช้กิจกรรมที่ใช้พลังงาน เช่น เดิน วิ่ง กระโดด เต้นประกอบเพลง และกิจกรรมเคลื่อนไหวผ่านสิ่งกีดขวาง

มาถึงตอนนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครูก็ได้ทราบถึงความสำคัญและประโยชน์ของการฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่และการวางแผนเคลื่อนไหวทางร่างกาย ตลอดจนได้ทราบตัวอย่างของกิจกรรมการเคลื่อนไหวที่สามารถนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาการเคลื่อนไหวกันไปเรียบร้อยแล้ว เพราะฉนั้น เราอย่ามัวรีรอกันอยู่เลยค่ะ ลุกขึ้น เหยียดแขนเหยียดขา และเตรียมตัวของเราให้พร้อมที่จะจูงไม้จูงมือลูก ๆ เด็ก ๆ ไปเดิน วิ่ง กระโดด และออกกายบริหารกันเลยดีกว่า เพื่อลูก ๆ เด็ก ๆ เกิดความรู้สึกสนุกสนานร่วมไปกับเรา พร้อม ๆ กับการที่จะได้สร้างเสริมพัฒนาการของตนเอง ส่วนเราก็จะได้ใช้เวลาร่วมกับเด็ก ๆ อย่างมีคุณภาพ พร้อม ๆ ไปกับการได้ลดพุง ลดไขมันส่วนเกิน และมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นค่ะ

สำหรับบ้านอุ่นรักนั้น ทุก ๆ กิจกรรมที่เด็ก ๆ ทำร่วมกับเรา “ต้องสนุกสนาน” แต่จะสนุกเพียงอย่างเดียวไม่ได้แน่ ๆ เรา “ต้องมีเป้าหมาย” ด้วยค่ะ

Photo Credit: Zach Callahan | Unsplash

กิจกรรมศิลปะยามบ่ายที่บ้านอุ่นรัก | บ้านอุ่นรัก

กิจกรรมศิลปะยามบ่ายที่บ้านอุ่นรัก | บ้านอุ่นรัก

ในช่วงบ่าย ๆ ที่ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการ “บ้านอุ่นรัก” คุณครูจะชวนเด็ก ๆ ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลายเพื่อกระตุ้นพัฒนาการที่รอบด้านให้กับเด็ก ๆ และการร่วมทำกิจกรรมสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะร่วมไปกับคุณครู ก็เป็นกิจกรรมชนิดหนึ่งที่ลูกศิษย์ของบ้านอุ่นรักมักจะได้ลงไม้ ลงมือ และละเลงสี ร่วมกับครูกระตุ้นพัฒนาการกันอยู่บ่อย ๆ

“ครูโอ๋” (คุณฐิติมา สุพิสาร ครูกระตุ้นพัฒนาการและนักจิตวิทยา ศูนย์กระตุ้นพัฒนาการ “บ้านอุ่นรักสวนสยาม”) ผู้รับผิดชอบ ดูแล และลงมือสอนกิจกรรมศิลปะยามบ่ายที่บ้านอุ่นรักสวนสยาม สรุปให้เราเข้าใจได้โดยง่ายว่า “กิจกรรมงานศิลปะจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการเกือบทุกด้านให้กับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก การใช้จินตนาการ การคงสมาธิ การแสดงออกทางอารมณ์ การใช้สมองซีกซ้ายและขวาประกอบกัน และการประสานการเคลื่อนไหวของร่างกาย นอกจากนี้แล้ว เรายังสามารถใช้กิจกรรมงานศิลปะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการสบตา การใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร การกระตุ้นทักษะทางสังคม และใช้ในการต่อยอดเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียนรู้เชิงวิชาการให้กับเด็ก ๆ ที่มีอาการออทิสติก สมาธิสั้น หรือพัฒนาการช้าไม่สมวัยได้อีกด้วย”

ช่างน่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ เลยนะคะที่กิจกรรมศิลปะสามารถช่วยสร้างพัฒนาการให้กับเด็ก ๆ ได้อย่างรอบด้านดังเช่นที่ครูโอ๋ได้สรุปไว้ข้างต้นนี้

ในเมื่อประโยชน์ที่เด็ก ๆ จะได้รับจากการร่วมทำกิจกรรมงานศิลปะมีอยู่มากมายขนาดนี้ คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองคงได้ไอเดียกันแล้วนะคะว่าในวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้ หรือในวันนี้ที่ลูกหลานและท่านอาจมีเวลาว่างที่ตรงกัน ท่านจะจูงไม้จูงมือและชักชวนลูกหลานให้มาร่วมกันทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แบบใดกันดี

ถ้าเลือกทำกิจกรรมศิลปะร่วมกันจนได้ชิ้นงานศิลปะกันแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองสามารถแชร์ภาพชิ้นงานมาให้บ้านอุ่นรักและสมาชิกท่านอื่น ๆ ร่วมชื่นชมกันได้นะคะ ส่งกันมาเยอะ ๆ นะคะ เพราะเรารอชมอยู่ค่ะ 

ปัจจัยที่จะส่งผลให้การปรับพฤติกรรมประสบความสำเร็จ | บ้านอุ่นรัก

ปัจจัยที่จะส่งผลให้การปรับพฤติกรรมประสบความสำเร็จ | บ้านอุ่นรัก

การปรับพฤติกรรมของลูกหลานเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องทำ ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมบางอย่าง เรา “ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ” เช่น พฤติกรรมทำลายข้าวของ ทำร้ายตนเองและคนรอบข้าง หมกมุ่น ยึดติด หรือไม่เคารพกติกาหรือข้อตกลงที่เคยทำไว้ร่วมกัน เป็นต้น

การปรับพฤติกรรมของลูกหลานนั้น ขอเพียงเราได้รู้แนวทางและลงมือนำแนวทางที่รู้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ เราก็จะประสบความสำเร็จในการลงมือทำ

บ้านอุ่นรักหวังว่าแนวทางการปรับพฤติกรรมที่เราให้นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง คุณครู และผู้ที่สนใจทุกท่าน ตลอดจนส่งผลดีต่อลูกหลานที่จะได้มีพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ดีขึ้นได้ในท้ายที่สุด

8  ของเล่นติดบ้าน เพื่อเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติกอายุ 2-5 ขวบ | บ้านอุ่นรัก

8 ของเล่นติดบ้าน เพื่อเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติกอายุ 2-5 ขวบ | บ้านอุ่นรัก

วัย 2-5 ขวบเป็นวัยที่เด็กๆจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านการเล่น โดยการเรียนรู้บางส่วนเกิดระหว่างการเล่นร่วมกับพ่อแม่กับคนรอบข้าง หรือเล่นกับเพื่อนๆวัยเดียวกัน หรือ และอีกส่วนจะเป็นการค้นพบด้วยตนเอง  โดยเด็กจะสนใจทุกสิ่งรอบตัวและค้นคว้า หาทางเล่นได้หลากหลาย ผ่านการเล่น เชิง  สำรวจ  ทดลอง  ค้นคว้า ซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเด็ก ๆ ค้นพบการเรียนรู้บางอย่าง แต่สำหรับเด็กออทิสติก การเล่นมักมีรูปแบบเฉพาะที่แตกต่างออกไป คือ เด็กมักสนใจสิ่งของที่สามารถนำมาตอบสนองการรับสัมผัส โดยวนเล่นซ้ำ ๆ ในรูปแบบเดิม ๆ แบบ Sensory Play มากกว่าการเล่นเชิงสำรวจค้นคว้าแบบเด็กในวัยเดียวกัน

ถ้าอย่างนั้น ในวันนี้ เรามาคุยกันในประเด็นการเลือกของเล่นที่เราควรมีติดบ้านเพื่อส่งเสริมพัฒนาการลูกกออทิสติกวัย 2-5 ขวบ โดย “บ้านอุ่นรัก” ขอเสนอ 8 ของเล่นติดบ้านเพื่อเสริมพัฒนาการเด็กออทิสติกอายุ 2-5 ขวบกันค่ะ 

1 ของเล่นที่นำมาประกอบการเคลื่อนไหว

วัย 2 ขวบเป็นวัยที่เด็ก ๆ จะเริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมร่างกายตนเองและเริ่มเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางที่มีรูปแบบมากขึ้น โดยเริ่มมองหาสิ่งรอบตัวมาเล่นประกอบการเคลื่อนไหว แต่เด็กออทิสติกมักจะชอบเคลื่อนไหวอิสระแบบเดิม ๆ โดยไม่มีรูปแบบ เช่น วิ่งไป-มาข้ามห้อง เดินวนรอบห้อง ปีนป่ายโซฟาซ้ำแล้วซ้ำอีก หรือนั่งแยกตัวนาน ๆ กับสิ่งเดิม ๆ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรจัดหาของเล่นที่สามารถนำมาเล่นประกอบเพื่อเพิ่มทักษะการเคลื่อนไหวทางร่างกาย เช่น  แทมโพลีนกระโดดเล่น รถของเล่นที่มีล้อเข็นไปมา รถลากมีเชือกผูกสำหรับลากจูง ลูกบอลไว้เตะ-โยน-กลิ้ง ลูกปิงปองไว้โยนเล่น ฟองสบู่ไว้วิ่งไล่จับ จักรยานขาไถไว้ใช้ฝึกการทรงตัว หรือรถจักรยานสามล้อขนาดที่เหมาะสมกับวัย

หลักการ: ชวนเด็กเล่นประกอบการเคลื่อนไหวให้หลากหลายแต่มีรูปแบบที่เหมาะสมกับของเล่นนั้น ๆ และชวนให้เด็กเล่นโดยใช้ระยะเวลาต่อเนื่องนานพอควรโดยไม่ละความสนใจกลางคัน  เช่น  เล่น 5-10 นาทีเป็นอย่างน้อยต่อรอบ

2 ของเล่นเพื่อเพิ่มการสำรวจ ทดลอง (สิ่งของรอบตัว)

เนื่องจากเด็กออทิสติกมักจะสนใจสิ่งเร้าจำกัด ไม่ค่อยเข้าไปสำรวจหรือตอบสนองกับสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว เมื่อสนใจเล่นอะไรก็มักจะเล่นเป็นรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ซึ่งต่างจากเด็กในวัยเดียวกัน ดังนั้น เราควรมองหาสิ่งของที่มีอยู่รอบตัว เช่น ขวด กล่อง ของใช้  ของใช้พลาสติก ฯลฯ มาชวนลูกเล่นแบบทดลอง สำรวจ และค้นหาวิธีเล่นสนุก ๆ ที่หลากหลาย หรืออาจจัดหาของเล่นที่มีแสง สี เสียง มีการเคลื่อนไหว เช่น ของเล่นไขลาน ไฟฉายดวงเล็ก หุ่นที่ขยับได้ หมุนลูกข่าง เป่าฟองสบู่ โยนลูกปิงปอง เทบอลลูกเล็ก 10-15 ลูกแล้วกระตุ้นให้เด็กเก็บบอลใส่ตะกร้า โยนลูกโป่งแล้วชวนเด็กไล่ตีไล่จับ เป็นต้น

หลักการ: เมื่อมีของ1 ชิ้นวางอยู่ตรงหน้าที่สามารถนำมาเล่นได้ ให้เราพยายามกระตุ้นให้เด็กสนใจและพยายามค้นหาวิธีเล่นหลาย ๆ แบบ เช่น นำขวดมาเปิด-ปิดฝา นำมากลิ้งเล่น  เตะขวดแทนบอล นำของมาใส่ปิดฝาแล้วเขย่า  เล่นกรอกน้ำใส่ขวด หรือนำรถยนต์ของเล่นมาชวนลูกเล่นด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น นำรถมาแล่นบนพื้นไปมา รถปีนขึ้นสะพานไม้ จับรถถอยเข้าจอดในกล่อง ฯลฯ หรือจัดสถานการณ์บ่อย ๆ ให้ลูกสังเกตเห็นสิ่งเร้าและเข้าไปตอบสนองให้ถี่ขึ้นอย่างมีทิศทางมากขึ้น เช่น กระตุ้นให้ทดลองเปิด-ปิดปุ่มบังคับของเล่นไขลาน เล่นฟองสบู่ในรูปแบบหลากหลาย จับนำลเด็กให้สนุกกับวิ่งไล่จับฟองสบู่ ใช้นิ้วตามจิ้มฟองสบู่ให้แตก กระโดดโหม่งฟองสบู่ เป็นต้น   

3 ของเล่นเพื่อประกอบการเรียนรู้และเข้าใจสิ่งรอบตัว ของใช้หรือสิ่งของที่เด็กพบในชีวิตประจำวัน

หลักการ: ชวนเด็กเล่นสิ่งของตามประโยชน์ของสิ่งของนั้น ๆ เช่น แปรงสีฟัน หวี กระจก ขวดแชมพู ช้อน จาน แก้วนํ้าพลาสติก ฯลฯ เริ่มจากจับมือนำ ชวนสำรวจทดลอง และพาเด็กเรียนรู้สิ่งรอบตัวอย่างหลายหลาย โดยนำสิ่งนั้นมาประกอบกริยาอาการตามจริง ทำบ่อย ๆ ทำทุกครั้งที่เห็นโอกาสจะแทรกได้ เช่น จับมือเด็กทำท่าแปรงฟันแล้วปล่อยให้เด็กทำเอง สาธิตและจับมือเด็กทำท่าหวีผมแล้วปล่อยให้เด็กทำเอง     

4 ของเล่นเพื่อสร้างสมาธิ

ใช้ของเล่นที่มีจำนวนชิ้นมาก ๆ ที่มั่นใจว่าเด็กสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเองอย่างแน่นอน เพื่อฝึกให้เด็กเล่นของเล่นแบบต่อเนื่องรวดเดียวจบโดยไม่ละความสนใจกลางคัน ทั้งนี้ เราสามารถใช้กิจกรรมฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กที่เด็กทำได้เองแล้วมาฝึกการคงสมาธิ เช่น ต่อเลโก้ขนาดใหญ่ หยอดกระปุกออมสิน หยิบเมล็ดพืชใส่ขวด หนีบไม้หนีบขนาดใหญ่บนกระดาษแข็ง ใส่บล็อกลงแท่น กรอกทรายใส่ขวด กรอกน้ำใส่ขวด ปักหมุดขนาดใหญ่ลงแท่น ดึงและกดของเล่นโฟม หรืออาจใช้กิจกรรมที่ได้ลงมือทำเอง เช่น ระบายสีน้ำ ระบายสี ติดเศษกระดาษบนภาพ ลากเส้นง่าย ๆ โดยตั้งเป้าหมายให้ทำงานได้ในพื้นที่อย่างน้อยครึ่งหนึ่งหรือสามเต็มส่วนของกระดาษ A4 และค่อย ๆ เพิ่มการทำงานให้ได้พื้นที่มากขึ้น 

หลักการ: ชวนเด็กเล่นของเล่นที่หลากหลาย โดยเน้นการเฝ้ามองและกระตุ้นให้เด็กลงมือทำกิจกรรมนั้น ๆ ที่มั่นใจว่าไม่ยากเกินความสามารถตามวัย ในกรณีที่เด็กลงมือทำตามทิศทางการเล่นที่ถูกต้องแล้ว เราจะปล่อยให้เด็กเล่นเองโดยไม่เข้าแทรก แต่หากเด็กลงมือทำไม่ต่อเนื่องหรือนำของนั้นมาเล่นในลักษณะกระตุ้นการรับรู้ของตนเอง แบบ Sensory Play เช่น เพ่งมอง เคาะฟังเสียง ลูบสัมผัสแทนเล่น เรียงเป็นแถวยาวเพื่อเพ่งมอง จึงเข้าแทรกและนำให้เด็กลงมือทำในทิศทางที่ตรงตามรูปแบบการเล่นนั้น ๆ โดยนับจำนวนชิ้นที่ส่งให้เด็กทำให้ต่อเนื่อง เริ่มจาก 5 -10-15-20 ชิ้น ตามลำดับ 

5 ของเล่นเพื่อฝึกการแก้ปัญหาและพัฒนักษะด้านสติปัญญา

ตัวอย่างของเล่น เช่น ภาพตัดต่อ หนังสือ เกมบอร์ดต่าง ๆ จับคู่ภาพที่เหมือนกัน จับคู่สี รูปทรง ตัวเลข ตัวอักษรพลาสติก หัวและตัวสัตว์ ภาพกับเงา เป็นต้น โดยเพิ่มระดับความยากตามความสนใจและความสามารถของเด็ก

หลักการ: ชวนเด็กเล่นตามรูปแบบที่เหมาะสมกับของสิ่งนั้น หากในระยะเริ่มต้นเด็กยังเล่นไม่ได้ ให้เราเริ่มจากจับมือเด็กทำซ้ำ ๆ แล้วค่อย ๆ ลดการช่วยลงทีละน้อย  

6 ของเล่นเพื่อพัฒนาทักษะทางกล้ามเนื้อมัดเล็ก (มือ-นิ้ว-สายตา)

ตัวอย่างของเล่น เช่น ดินน้ำมัน กรรไกรปลายมน ฉีกหรือขยำกระดาษ ไม้หนีบผ้า ร้อยลูกปัด 

หลักการ:  การพัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างมือ-นิ้ว-สายตา จะพัฒนาผ่านกิจกรรมที่เด็ก ๆ ได้ทดลองลงมือทำและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่หลากหลายผ่านการเล่นบ่อย ๆ เพื่อสร้างประสบกาณ์ให้เด็ก ๆ มีโอกาสได้ฝึก ขยำ ดึง กด แกะ บิดข้อมือ โดยเน้นให้เด็ก ๆ ได้ใช้มือทั้งสองข้างทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ เราควรเตือนให้เด็กตามองตามมือขณะลงมือทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นระยะตามความเหมาะสม

7 ของเล่นเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา

ตัวอย่างของเล่น เช่น หนังสือนิทาน ตุ๊กตา โมเดลสัตว์และผลไม้  เครื่องครัว การ์ดภาพ ฯลฯ

หลักการ: การพัฒนาทักษะทางภาษาประกอบด้วย 3 มุมมอง คือ การขยายคำศัพท์ การฝึกการฟังเข้าใจ และการกระตุ้นการสื่อความหมายผ่้านการพูดหรือการแสดงท่าทาง ดังนั้น เราจะใช้ของเล่นข้างต้นเป็นเครื่องมือแทรกการสอนศัพท์ ทบทวนการฟัง โดยการตั้งคำถามหรือให้คำสั่งบางอย่างเพื่อประเมินความเข้าใจจากการฟังและกระตุ้นให้เด็ก ๆ พูดหรือใช้ท่าทางโต้ตอบกลับมา 

8 ของเล่นเชิงจินตนาการ

ของเล่นประเภทนี้เป็นการเล่นแบบแสร้งทำ เล่นเชิงจินตนาการ และสร้างบทสนทนา เช่น โมเดลสัตว์  รถยนต์ของเล่น เลโก้ ตุ๊กตา ฯลฯ

หลักการ: เรานำของเล่นนั้น ๆ มาประกอบการเล่นเป็นเรื่องราวหรือกระทำแบบแสร้งทำเสมือนจริง เช่น นำตุ๊กตามาแต่งตัวและพูดคุยเหมือนกำลังเลี้ยงน้อง เล่นหม้อข้าวหม้อแกงแบบกำลังขายของ นำตัวโมเดลทหารพลาสติก 2 ตัวมาทำเหมือนกำลังต่อสู้กัน นำหุ่นยนต์มาเดินหรือทำท่าทาง ในกรณีที่เด็กออทิสติกสามารถเริ่มพูดสนทนาได้ เราอาจเพิ่มบทสนทนาแทรกประกอบในการเล่นนั้น ๆ

“บ้านอุ่นรัก” หวังว่าตัวอย่างของเล่นแบบต่าง ๆ ที่เรานำมาเสนอในวันนี้พอจะเป็นไอเดียเรื่องการจัดหาของเล่นประจำบ้าน ตลอดจนให้แนวทางการและวิธีเล่นกับเด็ก ๆ ได้บ้างนะคะ อย่าลืมนะคะว่าทุกครั้งที่เล่นหรือใช้เวลาร่วมกับเด็ก อย่าลืมที่จะแทรกการสบตา สัมผัสตัวเด็ก และแทรกบทสนทนา คุยกับเด็ก ๆ ลูก ๆ ใช้เวลาดี ๆ ร่วมกันอย่างคุ้มค่าให้มากที่สุด ว่าแล้วก็ลุกขึ้นไปสำรวจสิ่งที่พอจะมีอยู่แล้วในบ้านหรือออกไป Shopping เตรียมของเล่นไว้เล่นกับเด็ก ๆ ลูก ๆ กันค่ะ แต่มีเงื่อนไขนะลูก “ขอ พ่อแม่เล่นด้วยนะ”

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคุณครูที่สนใจเรียนรู้เทคนิคการเล่นกับเด็กออทิสติก เราก็มีตัวอย่าง มี Lesson Plan และภาพการสาธิตการเล่นเพื่อบำบัดอาการเด็กออทิสติกด้วยค่ะ สนใจติดต่อสอบถามเราได้ตามช่องทางที่คุณสะดวก กดที่นี่เลยค่ะ