การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูด ตอนที่ 1: ใครช่วยลูกได้ เมื่อลูกมีปัญหานี้ | บ้านอุ่นรัก
ใครช่วยลูกได้ เมื่อลูกมีปัญหานี้?
ความล่าช้าทางพัฒนาการทางภาษาและการพูดในลูกออทิสติก สมาธิสั้น พัฒนาการช้า เป็นปัญหาที่ส่งผลให้ลูกอาจไม่พูดเลย หรือแม้จะพูดได้ก็มักพูดไม่เป็นภาษา คุณภาพการพูดไม่สมวัย พูดด้วยคำพูดพยางค์เดียว พูดตาม พูดทวนคำถาม พูดเป็นประโยคยาว ๆ ไม่ได้ หรือพูดสานต่อบทสนทนาไม่ได้ เป็นต้น
สำหรับลูก ๆ ที่มีปัญหาด้านพัฒนาการทางภาษาและการพูด บุคคล 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ คือ คนที่ช่วยลูกได้
1: แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กหรือจิตแพทย์เด็ก
การบำบัดรักษาปัญหาพัฒนาการทุกรูปแบบของลูกต้องเริ่มต้นจากการที่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองพาลูกไปพบแพทย์ ซึ่งแพทย์ในที่นี้ หมายถึง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กหรือจิตแพทย์เด็ก ทั้งนี้ แม้แพทย์ไม่มีบทบาทโดยตรงในการสร้างเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูด แต่แพทย์จะวินิจฉัยอาการเพื่อระบุปัญหาในภาพรวมและวางแผนการบำบัดรักษาให้ถูกต้องต่อไป นอกจากนี้ ในระหว่างการบำบัดรักษา แพทย์จะประเมินและติดตามผลการบำบัดรักษา ตลอดจนปรับแผนการบำบัดรักษาให้เหมาะสมกับพัฒนาการของลูกเป็นระยะ ๆ ด้วย
2: นักวจีบำบัดหรือครูฝึกพูด
นักวจีบำบัดหรือครูฝึกพูดเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีบทบาทหลักในการสร้างเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดให้กับลูก นอกจากนี้ นักวจีบำบัดหรือครูฝึกพูดจะให้คำแนะนำและแนวทางเรื่องการส่งเสริมทักษะด้านนี้แก่คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครอง เพื่อคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองนำไปปรับใช้เพื่อช่วยลูกในขณะที่ลูกอยู่บ้านควบคู่กันไป ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกได้ฝึกทักษะการพูดและการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวัน จนลูกสามารถใช้ทักษะเหล่านี้ได้ดีขึ้นในวิถีชีวิตจริง
3: คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองและคนที่บ้าน
เมื่อนักวจีบำบัดหรือครูฝึกพูดให้คำแนะนำเรื่องวิธีฝึกลูกที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองก็จะสามารถเข้ามามีส่วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดให้ลูกที่บ้านควบคู่ไปกับผู้เชี่ยวชาญได้ นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรแบ่งปันข้อมูลและวิธีฝึกลูกให้คนที่บ้านทุกคนที่เกี่ยวข้องกับลูกได้ทราบร่วมกันด้วย เพื่อนำไปใช้ในทิศทางเดียวกันและแทรกการส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดได้บ่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติตามจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยให้ลูกเริ่มคุ้นเคยที่จะพูด พูดอย่างมีคุณภาพสมวัยขึ้น พูดได้ยาวขึ้น และสามารถพูดสานต่อบทสนทนากับคู่สนทนาได้ดียิ่งขึ้น
การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูดให้กับลูก ๆ ในลักษณะการทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย คือ (1) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กหรือจิตแพทย์เด็ก (2) นักวจีบำบัดหรือครูฝึกพูด และ (3) คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองและคนที่บ้าน เป็นวิธีช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางภาษาและการพูดที่คืบหน้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยแก้ไขสถานการณ์การขาดแคลนนักบำบัด และช่วยลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการพาลูกไปรับการบำบัดรักษานอกบ้านได้อีกประการหนึ่ง
สำหรับบทความเรื่อง “การส่งเสริมพัฒนาการทางภาษาและการพูด” นี้ยังมีอีก 3 ตอน ซึ่งศูนย์กระตุ้นพัฒนาการเด็ก “บ้านอุ่นรัก” อยากให้คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองติดตามอ่านให้ครบทุกตอน เพื่อท่านได้รู้แนวทางการสร้างเสริมทักษะด้านนี้ให้กับลูกในขณะที่ลูกอยู่บ้าน จนสามารถช่วยลูกควบคู่ไปกับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป
เครดิตภาพ: Ricke 76 | Unsplash | Slidesgo