เด็กออทิสติกไม่จำเป็นต้องรับประทานยารักษาทุกคน และการใช้ยาไม่ได้มุ่งการแก้ไขอาการออทิสติกโดยตรง ทั้งนี้เพราะการแก้ไขอาการออทิสติกโดยตรง คือ การกระตุ้นพัฒนาการและการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่ในบางกรณี แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาเพื่อแก้ไขอาการผิดปกติบางประการของเด็ก เพื่อสนับสนุนให้การบำบัดรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างข้อบ่งชี้ ข้อพิจารณาในการใช้ยารักษาในเด็กออทิสติก มีดังนี้ คือ

หนึ่ง: มีอาการผิดปกติทางด้านพฤติกรรมเฉพาะอย่างที่ขัดขวางการดำรงชีวิต ขัดขวางการปรับตัว หรือเป็นอุปสรรคต่อการฝึกอย่างชัดเจน แพทย์จึงพิจารณาใช้ยาเพื่อแก้ไขอย่างมีวัตถุประสงค์ เช่น ลูกมีพฤติกรรมซ้ำ ๆ หรือกระตุ้นตนเองมาก ๆ ลูกมีพฤติกรรมทำร้ายตนเอง มีปัญหาด้านอารมณ์รุนแรง มีปัญหาด้านการนอน มีพฤติกรรมซนอยู่ไม่สุขไม่อยู่นิ่งในระดับที่ควบคุมตนเองได้ยาก เป็นต้น

สอง: มีอาการของโรคลมชัก

สาม: มีอาการของโรคทางจิตเวช อาการนี้อาจพบได้ในช่วงประถมหรือวัยรุ่น เช่น อาการทางจิต หูแว่ว ประสาทหลอน หรือซึมเศร้า

ในเรื่องของการใช้ยารักษาลูกออทิสติกนี้ คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองไม่ควรซื้อยาให้ลูกทานเอง แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อแพทย์จะได้ดูแล ปรับขนาดของยาตามน้ำหนัก และอาการของลูกเพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด หากในระหว่างการใช้ยา มีกรณีพบผลข้างเคียงจากการใช้ยา คุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองควรรีบประสานเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากแพทย์ แต่ไม่ควรหยุดยาหรือปรับยาเอง เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงต่อเด็กได้

เครดิตภาพ: Pina Messina | Unsplash