ความในใจของคุณแม่ของลูกชายวัย 3.5 ขวบ
“ขอเล่าประสบการณ์การดูแลลูกตลอด 2 ปีที่ต่อสู้กับการปรับพฤติกรรมทุกแนวทางของลูกชายวัย 3 ขวบ 5 เดือน…เริ่มจากเด็กพูดจาไม่เข้าใจ มีแต่คนในครอบครัวเข้าใจลูกว่าต้องการสิ่งใด อยากได้อะไร จะทำอะไร
แต่พาไปโรงเรียนขึ้นเตรียมอนุบาลไม่สามารถสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจจนต้องออกจากโรงเรียนเพื่อพามาปรึกษาคุณหมอ จนสุดท้ายรู้ว่าลูกเป็นเด็กออทิสติกสเปคตรัม ก็ได้การแนะนำจากบ้านอุ่นรักให้ไปพบกับคุณหมอท่านนี้
กว่าจะมาถึงจุด ณ ปัจจุบัน ครอบครัวต้องฝ่าฟันอุปสรรคในหลายด้านมาอย่างลำบาก
นั่งกอดลูกร้องไห้ไปด้วยก็ผ่านมาแล้ว…แอบร้องไห้ไม่ลูกเห็นก็ผ่านมาแล้ว…ทะเลาะกับพ่อแนวความคิดไม่ตรงกันและปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลลูก…เปลี่ยนการใช้ชีวิตของตัวเอง…ทุกอย่างทุ่มเทไปที่ลูกทั้งหมด
แต่วันนี้…ครอบครัวยิ้มได้อย่างเต็มภาคภูมิเพราะลูกเราสามารถอยู่ในรั้วโรงเรียนเหมือนเด็กคนอื่นได้อย่างปกติ แต่ก็ยังต้องเฝ้าติตามพฤติกรรมต่อไป
อยากให้คุณพ่อและคุณแม่มีกำลังใจในการดูแลลูก เพราะลูกเราต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ลูกเราก็จะก้าวสู่โลกใบใหม่พร้อมให้เค้าได้เรียนรู้กับสิ่งใหม่ ๆ
ขอให้ทุกครอบครัวอย่าท้อกับอุปสรรค ขอให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้ทุกรูปแบบ
อยากจะเล่าอีกนิดนะคะ สิ่งสำคัญมาก การที่ให้ลูกไปที่บ้านอุ่นรักอย่างเดียวไม่พอนะคะ สิ่งที่เราต้องทำควบคู่กันคือทุกคนในครอบครัวต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลลูกเช่นกันคะ
ชวนลูกเล่นกิจกรรมสนุก ๆ ในครอบครัว อย่าปล่อยเค้าอยู่คนเดียว เล่นคนเดียว หากิจกรรมทำร่วมกันแล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดีคะ
ครอบครัวและคุณครูที่บ้านอุ่นรักคอยมองลูกทุกคนก้าวออกจากบ้านอุ่นรักเพื่อก้าวเข้าโรงเรียนอย่างเต็มภาคภูมิและจะคอยดูการเติบโตต่อไปในอนาคต
กราบขอบพระคุณคุณครูที่บ้านอุ่นรักทุกท่านนะคะที่ทำเพื่อลูก และเพื่อสังคมด้วยรักและความห่วงใย”
Photo Credit: Connor Wilkins | Unsplash