หนังสือ 3 เล่มที่น่าอ่าน
“หนังสือที่น่าอ่านทั้ง 3 เล่ม” นี้ อาจจะช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองเข้าใจวิธีคิดและการมองโลกของลูก ๆ ที่เป็นเด็กพิเศษของพวกเราค่ะ
สำหรับลูกแล้ว การใช้ชีวิตบนโลกนี้ให้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่พวกเขาจะสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ ถ้าเราพยายามมากพอค่ะ
คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองที่สนใจอ่านหนังสือเหล่านี้ ท่านสามารถหาซื้อได้จากร้านขายหนังสือทั่ว ๆ ไปหรือร้านขายหนังสือออนไลน์ค่ะ
เล่มที่ 1: อันชนกชนนีนี้รักเจ้า (For the Love of Ann)
ราคาประมาณ: 170 บาท
ผู้เขียน: James Copeland (เจมส์ โคปแลนด์)
ผู้แปล: อาจารย์หม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา
ข้อมูลของเรื่องโดยย่อ: “วรรณกรรมแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ For the Love of Ann เป็นชีวประวัติของเด็กสาวชาวอังกฤษผู้หนึ่งซึ่งเจมส์ โคปแลนด์ เขียนขึ้นตามคำบอกเล่าของผู้เป็นพ่อของเด็กสาวซึ่งเติบโตเจริญวัยมาด้วยความยากลำบากแสนสาหัสเพราะ “โรคออทิสซึ่ม” มาเบียดเบียน
จากหนังสือเล่มนี้ เราจะได้อ่านเรื่องแปลชีวิตของสาวน้อยชื่อ “แอน” ผู้ถือกำเนิดมาเป็นเด็กออทิสติก หากแต่เติบโตมาเป็นสาวน้อย งดงามทั้งรูปและภูมิปัญญา ทั้งนี้ด้วยความสามารถ ความเสียสละ และน้ำอดน้ำทนของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ คือ “มิสเตอร์และมิสซิสฮอดเจส”
ประโยชน์อันยิ่งใหญ่ที่ท่านผู้อ่านจะได้รับไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็คือจะได้ทราบลักษณะของเด็กออทิสติกอย่างละเอียดลออเพิ่มขึ้นอีกประเภทหนึ่ง และเห็นถึงหนทางการต่อสู้เพื่อเอาชนะอาการออทิสติกนั้นที่ทั้งน่าตื่นเต้นและชวนติดตามอย่างน่าระทึกใจตลอดเวลา” (ที่มาของข้อมูล: http://www.su-usedbook.com)
เล่มที่ 2: No Body No Where เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้
ราคาประมาณ: 100 บาท
ผู้เขียน: ดอนน่า วิลเลี่ยมส์ (Donna Williams)
ผู้แปล: อุบล สรรพัชญพงษ์ | ปัทมา กิตติถาวร | จิรสิริ เกษมสินธุ์
ข้อมูลของเรื่องโดยย่อ: หนังสืออัตชีวประวัติพิเศษของสาวออทิสติก (ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เป็นบุคคลออทิสติก) ที่ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี ค.ศ. 1992 ที่สหราชอาณาจักร และอยู่ในรายชื่อของหนังสือที่ขายดีที่สุดของ New York Times เป็นเวลา 15 สัปดาห์ในช่วงครึ่งแรกของปี ค.ศ. 1993
“นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับออทิสติกที่คนเป็นออทิสติกเขียนเอง เล่าเรื่องของตัวเองตั้งแต่สามขวบจนสักยี่สิบปลาย ๆ
มันเป็นเรื่องออทิสติกที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่เราเคยอ่านมา บรรยายถึงความรู้สึกและโลกที่คนเป็นออทิสติกมองเห็นได้อย่างที่เราเองก็แทบจะสัมผัสได้ และมันก็เป็นเรื่องของคนเป็นออทิสติกที่เจ็บปวดที่สุดที่เราเคยอ่าน สังคมที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนทุกคนได้อย่างทั่วถึง การมีชีวิตอยู่ในโลกอันแปลกแยก ความพยายามที่จะวิ่งไล่ตามคนอื่นเพราะอยากจะเป็น “คนธรรมดา” บ้าง ระบบความคิดที่ทำให้ต้องเจออะไรที่ไม่อยากเจอ (และไม่เจออะไรที่อยากเจอ)
บางทีอาจจะเพราะปัญหาในครอบครัวของคนเขียนและความผิดปรกติของเธอซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงกับคนปรกติมาก รวมทั้งระดับไอคิวซึ่งสูงตามแบบคนออทิสติกทั่วไป จึงทำให้ภาพที่เห็นมันคมชัดขนาดนี้ และอาจจะเพราะสำเนียงการเขียนซึ่งซื่อตรง สะท้อนภาพอย่างที่มันเป็น ตัดสินอะไรน้อยมาก จึงทำให้เรื่องมีพลังรุนแรง ถึงแม้ว่าสิ่งที่สื่อออกมาจะไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเราคุ้นเคย แต่เรากลับ “เข้าใจ” ได้เป็นอย่างดี ที่จริงก็ “เข้าใจ” จนเราสงสัยด้วยซ้ำว่าขีดเส้นแบ่งของความปรกติและไม่ปรกตินั้นมันอยู่ตรงไหนกัน” (ที่มาของข้อมูล: https://www.bloggang.com)
เล่มที่ 3: Born on a Blue Day จากออทิสติก…สู่อัจฉริยะ
ราคาประมาณ: 190 บาท
ผู้เขียน: Daniel Tammet (แดเนียล แทมเม็ต)
ผู้แปล: นวลจันทร์ ธัญโชติกานต์ | หยาดฝน ธัญโชติกานต์
ข้อมูลของเรื่องโดยย่อ: ความแตกต่างอาจนำมาซึ่งความสำเร็จ หากเราสามารถค้นพบสิ่งพิเศษในตัวเอง
“ในโลกของเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาแตกต่างจากคนรอบข้าง ความพิเศษของเราเป็นสิ่งซึ่งต้องถูกดูแลทะนุถนอมมากว่าปกติธรรมดา กระทั่งความสำเร็จอันเป็นผลพลอยของชีวิตได้เข้ามาทักทาย หากท่ามกลางวันเวลาแสนยากลำบากนับตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตน้อย ๆ ในครอบครัวที่ต้องดิ้นรนเพื่อเลี้ยงดูสมาชิกมากถึงสิบคน แต่ด้วยความรักความใส่ใจของพ่อแม่ ช่วยนำพาให้ “แดเนียล แทมเม็ต” เติบโตขึ้นพร้อมโอกาสและความรักจากผู้ให้กำเนิด นี่คือเบื้องหลังของการค้นพบตัวเอง…
“Born on a Blue Day จากออทิสติก…สู่อัจฉริยะ” หนังสือเล่มนี้ประสานเอาเรื่องราวชีวิต “เด็กพิเศษ” ผู้มีความสามารถในด้านคณิตศาสตร์ผ่านห้วงคิดคำนึงภาพสัญลักษณ์ต่าง ๆ อีกทั้งพรสวรรค์ด้านภาษาศาสตร์ถึงขั้นคิดค้นระบบภาษาเฉพาะของตัวเอง มีความเก่งกาจทั้งด้านวิชาประวัติศาสตร์และเล่นหมากรุก แต่ความเป็นเลิศเหล่านี้กลับต้องแลกมาด้วยภาวะด้อยความสามารถประสานการทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น อายุแปดขวบถึงเริ่มผูกเชือกรองเท้าได้เอง ไม่สามารถแยกแยะระหว่างซ้ายกับขวา กระทั่งทนเสียงของแปรงขัดสีกับฟันแทบไม่ไหว เรื่องง่ายสำหรับคนทั่วไปจะกลายเป็นเรื่องยากสำหรับแดเนียล เหล่านี้คือวิถีซึ่งเขาต้องฝ่าฟันความยากลำบากด้วยจิตใจมุ่งมั่นอยู่ตลอดเวลา!” (ที่มาของข้อมูล: https://www.se-ed.com)